"โค้ช-ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล"รับสารภาพล่วงละเมิดทางเพศถ่ายคลิป ด.ช. 5 ราย
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.66 พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม. ) เปิดเผยถึงการจับกุม นายสมพร หรือ เอส (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี โค้ชฟุตบอล และ พ.ต.เกียรติศาสตร์ หรือ กุ่ย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล นายทหารนอกราชการ ร่วมกันกระทำชำเรา ด.ช.ในทีมฟุตบอล ว่า ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงศ์ ผกก.3.บก.ปคม. ขยายผลหาหลักฐานหรือเหยื่อเด็กชายผู้เสียหายว่า มีเพิ่มขึ้นมาอีกหรือไม่ โดยให้ตรวจสอบคลิปวิดีโอที่ผู้ต้องหาบันทึกไว้ว่ามีการกระทำชำเราเด็กเพิ่มมาอีกหรือไม่ ถ้าพบเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินคดีเพิ่ม แม้ว่าผู้ปกครองของ ด.ช.ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศจะไม่มาแจ้งความ แต่เมื่อพบการกระทำผิดแล้วสามารถสอบปากคำในฐานะผู้เสียหายได้ ทั้งนี้หากการตรวจหลักฐานพบว่าคลิปวิดีโอที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนบันทึกไว้ มีการไปเผยแพร่ลงในสื่อโซเชียล หรือกลุ่มลับเพื่อแสวงหาประโยชน์จะต้องแจ้งข้อหาเพิ่มด้วย ส่วนตัวผู้ต้องหาวันนี้เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปผัดฟ้องฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานและเหยื่อที่ยังอยู่ในพื้นที่
ด้าน พ.ต.อ.ศราวุธ กล่าวว่าได้ส่งโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ตของผู้ต้องหาทั้งคู่ ส่งไปที่กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบดูว่า คลิปที่บันทึกไว้มี ด.ช.ถูกล่วงละเมิดทางเพศเพิ่มหรือไม่ โดยผู้ต้องหารับสารภาพมาแล้วว่า ได้ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศ ด.ช. 5 คน
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย คือ นายสมภรณ์ หรือ เอส และ พ.ต.เกียรติศาสตร์ หรือ "กุ่ย" เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับผิดฐาน “ร่วมกันกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปี, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี, ร่วมกันพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร, ร่วมกันพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ, ร่วมกันพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีเพื่อการอนาจารและร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจให้เด็กกระทำอันมีลักษณะลามกอนาจารฯ” โดยจับกุมได้ที่ หน้าบ้านแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี และ จ.พิษณุโลก
คดีนี้สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณเดือน พ.ย. 65 ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นโค้ชฟุตบอลให้นักเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี และได้หลอกล่อให้ ด.ช.เอ (นามสมมติ) ไปที่บ้านเพื่อข่มขืนกระทำชำเราและถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือหลายครั้ง โดยมีผู้ต้องหาที่ 2 ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอลโรงเรียนร่วมด้วย
ต่อมาวันที่ 30 ก.ค.66 ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ได้พา ด.ช. 4 คนในทีมฟุตบอลไปเที่ยว จ.บึงกาฬ และได้ล่วงละเมิดทางเพศ ด.ช. 4 คน ต่อมา ด.ช.ดี (นามสมมติ) มีอาการเลือดไหลออกทางทวารหนัก ยายจึงพาไปพบแพทย์ และในวันที่ 25 ส.ค.66 ผู้ต้องหาที่ 1 เรียก ด.ช.ดี (นามสมมติ) ไปหาที่บ้านเพื่อล่วงละเมิดทางเพศอีก ทำให้ ด.ช.ดี (นามสมมติ) หวาดกลัวจึงตีตัวออกห่าง แต่ถูกผู้ต้องหาที่ 1 เรียกกลับไปต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย
ต่อมาวันที่ 6 พ.ย.66 เด็กๆขอออกจากทีมฟุตบอล ครูประจำชั้นจึงเรียกมาสอบถามแล้วแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ ผู้ปกครองเด็กจึงติดต่อขอความช่วยเหลือกับทางมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. จึงได้ทำการตรวจค้นบ้านพัก พร้อมจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 รายดังกล่าว พบคลิปวิดีโอ รูปภาพสื่อลามกเด็ก และของกลางอื่นๆ นำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป