นายกรัฐมนตรีห่วงสถานการณ์ PM2.5

2023-12-13 16:40:42

นายกรัฐมนตรีห่วงสถานการณ์  PM2.5

Advertisement

 นายกรัฐมนตรีห่วงสถานการณ์  PM2.5  ยันรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจหรือยอมแพ้ ย้ำทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วมในการทำให้ค่าฝุ่นลดน้อยลง

เมื่อวันที่  13 ธ.ค. 66 ที่ห้องแกรนด์ ฮอลล์ 203 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เขตบางนา  กทม. ภายหลังการกล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “SUSTAINABILITY FORUM 2024” เรื่อง Clean Energy for Thailand Economy through Sustainability นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ขณะนี้รับทราบและรู้สึกเป็นห่วงค่าฝุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วนใหญ่เกิดจากการเผาซากพืชผลทางการเกษตรทั้งในต่างจังหวัดและเขตปริมณฑล รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ โดยรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจหรือยอมแพ้ เราได้มีการ kick off ด้วยการรณรงค์ไม่เผาป่าหรือเผาซากพืชผลทางการเกษตร ซึ่งจะต้องพยายามบริหารจัดการต่อไป ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามากำกับดูแล หาทางออกสำหรับปัญหานี้แล้ว โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า ปัญหาฝุ่นเกิดขึ้นกับทุกภาคส่วน ฉะนั้นทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วมในการทำให้ค่าฝุ่นลดน้อยลง

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ปัญหาเรื่องฝุ่นจากประเทศเมียนมา ประเทศลาวนั้นเป็นเรื่องใหญ่ โดยเราได้มีการพูดคุยกับทางประเทศลาวตลอดเวลา ซึ่งประเทศไทยเองก็มีเอกชนเข้าไปทำการปลูกพืชในพื้นที่ของประเทศลาว ทั้งนี้ ถ้าพืชผลจากประเทศลาวที่จะนำเข้ามาขายในประเทศไทย หากพบว่ามีการเผาซากพืชผลทางการเกษตรที่ประเทศลาวจะต้องถูกเก็บภาษี ปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีที่สามารถตรวจสอบได้ว่าเกิดการเผาที่ไหน อย่างไร โดยเราจะนำเงินส่วนนั้นมาช่วยหยุดการเผาป่าหรือการบำบัดซากพืชผลทางการเกษตร นำซากพืชผลเหล่านั้นไปทำลายให้ถูกวิธี อีกทั้งยังมั่นใจว่าทุกฝ่ายจะยอมรับการเก็บภาษีส่วนนี้ เพราะเป็นปัญหาใหญ่ เจ้าของกิจการ พนักงาน ลูกหลานล้วนถูกผลกระทบจากอากาศที่ไม่บริสุทธิ์ ส่วนเรื่องที่ประเทศเมียนมา ต้องให้ฝ่ายทหารเข้าไปพูดคุยด้วย เนื่องจากเมียนมานั้นมีปัญหาภายในประเทศ ทั้งนี้ ยืนยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจมีการพูดคุยกันตลอดเวลา 

ต่อมาเวลา 11.10 น. ณ บริเวณแยกราชประสงค์ ฝั่งเกษรพลาซ่า เขตปทุมวัน กทม.  นายกรัฐมนตรี ได้ตรวจสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาหาฝุ่นที่เกิดขึ้นทุกฝ่าย และทุกคนต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพราะส่งกระทบต่อทุกภาคส่วน ทั้งการท่องเที่ยว ปัญหาด้านสุขภาพ ของทุก ๆ คน โดยจากสถาการณ์เมื่อช่วงเช้า หลาย ๆ พื้นที่ปริมาณฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐาน ตนเองได้กำชับทั้งให้ควบคุมกำกับ มีการจัดการ และทำการตรวจสอบ

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปัญหาสภาพรถยนต์ไม่ใช่เพียงแค่รถยนต์ควันดำเพียงอย่างเดียว รวมถึงรถยนต์โดยทั่วไปอีกด้วย ต้องผลักดันเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านเป็นรถยนต์ EV ทั้งนี้ ได้ให้ความสำคัญถึงปัญหาฝุ่นที่เกิด จาการเผาอ้อย และซังข้าวโพด พร้อมเน้นย้ำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมให้เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ปัญหาฝุ่นที่เกิดขึ้นมานั้นไม่ใช่ปัญหาตามฤดูกาล ต้องดูแลปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่เพียงรับรู้ว่าเป็นปัญหาที่จะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งแล้วจะหมดไป รัฐบาลรับทราบปัญหาฝุ่นที่เกิดขึ้น พร้อมกล่าวย้ำว่า รัฐบาลมีความเป็นห่วงในเรื่องสุขภาพของประชาชนและจะดำเนินการจัดการกับปัญหาฝุ่นที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่