"ราเมศ" สวน "อนุสรณ์" รับฟังเสียงติติงกรณีดิจิทัลวอลเล็ต อย่าดิ้นเหมือนโดนน้ำร้อนลวก
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 66 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ได้กล่าวพาดพิงนายชวน หลีกภัย กรณีที่ให้สัมภาษณ์เตือนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีดิจิทัลวอลเล็ต ว่า นายอนุสรณ์ เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคแกนนำในรัฐบาลปัจจุบัน การรับฟังความเห็นต่างด้วยเหตุและผลเป็นสิ่งที่ควรทำ หลายเรื่องที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ไม่ถูกต้อง คำท้วงติงจากทุกฝ่ายรวมถึงฝ่ายค้านด้วย คือเสียงที่ต้องรับฟัง สมาชิกพรรคเพื่อไทยอย่าดิ้นเหมือนโดนน้ำร้อนลวก
นายราเมศ กล่าวต่อว่า การแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจหลักฐานชัดเจนที่เกิดจากคำพูดของ นายเศรษฐาเอง เมื่อเกิดความผิดพลาดก็ควรยอมรับการตรวจสอบ ประชาชนเข้าใจสาระในคำพูดทั้งหมดว่านายกรัฐมนตรีพูดหมายความว่าอย่างไร มีแต่สมุนนายกรัฐมนตรีเท่านั้นที่แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ ซึ่งเรื่องนี้ก็จะมีการตรวจสอบกันต่อไป ถ้านายเศรษฐา บอกว่าไม่อยากเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ควรจะลาออกอย่าให้ใครมาคอยสั่งการอยู่ข้างหลัง และขณะนี้มีนายเศรษฐา ไม่มีใครมองว่าเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงอยู่แล้ว นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีมา 2 สมัย ประธานสภามา 2 สมัย มีประสบการณ์ การให้ความคิดความเห็นอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ดำรงตนในทางการเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริต จนเป็นที่ประจักษ์ ไม่เคยทุจริต ไม่เคยหนีคดี เพราะฉะนั้นควรรับฟังและอย่าดิ้นเหมือนโดนน้ำร้อนลวก แล้วนำไปโยงกับการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่านายชวนควรเอาเวลาไปแก้ปัญหาในพรรคก่อน ซึ่งนักการเมืองที่คิดด้วยตรรกะเช่นนี้ไม่ถูกต้อง และควรรู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีใครสั่งซ้ายหันขวาหัน หรือจะมาสั่งให้ใครมาเป็นหัวหน้าได้เพราะฉะนั้นควรแยกให้ออกคิดให้เป็น ประชาธิปัตย์ไม่มีใครเป็นเจ้าของ การแข่งขันกันเป็นเรื่องปกติตามระบบประชาธิปไตยภายในพรรค นักการเมืองที่ดีจะไม่ไปก้าวก่ายการดำเนินกิจการภายในของพรรคอื่นเขาจะมีมารยาท พรรคเพื่อไทยเลือกหัวหน้าพรรคได้ลูกสาวคุณทักษิณมาเป็นหัวหน้าพรรคเราก็ถือว่าเป็นเรื่องภายในไม่วิพากษ์วิจารณ์ เป็นเรื่องภายในและเป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทย เพราะท้ายที่สุดในทางการเมืองบทพิสูจน์คือภาคปฏิบัติในการทำหน้าที่