"พิชัย"ระบุเศรษฐกิจไทยซบเซาหนัก แนะรัฐบาลเร่งแก้ไขให้หลุดพ้นจากภาวะกบต้ม
เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 66 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มซบเซาหนัก หลังจากสภาพัฒน์ประกาศตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 3 ขยายได้เพียง 1.5% หลังจากไตรมาส 2 ขยายได้ 1.8% และไตรมาสแรก 2.7% โดย 9 เดือนแรกของปีนี้ เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพียง 1.9% เท่านั้น ซึ่งเศรษฐกิจไทยทั้งปี 66 อาจจะขยายได้ไม่ถึง 2% การที่สภาพัฒน์ยังคงคาดการณ์เศรษฐกิจปี 66 ว่าจะขยายได้ 2.5% ไม่น่าจะทำได้จริง เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายจะต้องขยายตัวอย่างน้อย 4.3% ซึ่งจากแนวโน้มปัจจุบันแทบเป็นไปไม่ได้เลย การที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำอย่างต่อเนื่อง โดยตลอด 10 ปีเศรษฐกิจขยายตัวเฉลี่ยเพียงปีละ 1.8-1.9% เท่านั้น ซึ่งต่ำมากและต่ำที่สุดในอาเซียน ไทยถูกขนานนามจากสื่อต่างประเทศว่าเป็นคนป่วยของเอเซียตั้งแต่ก่อนจะเกิดวิกฤตการณ์โควิดเสียอีก และเป็นการยืนยันการอยู่ในภาวะกบต้ม เป็นตามทฤษฎีกบต้มที่ตนได้เคยเตือนไว้แล้วตั้งแต่ปี 59 และถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่งคนมาฟ้องร้องตนในปี 60 เป็นหลักฐานการเตือน แต่อัยการสั่งไม่ฟ้องแล้ว
"ดังนั้นประเทศไทยจึงต้องกระโดดให้พ้นภาวะกบต้ม โดยต้องเร่งให้เศรษฐกิจขยายตัวให้ได้ 5% ตามศักยภาพตามที่ธนาคารโลก ไอเอ็มเอฟ และเอดีบี ได้เคยระบุไว้ ดังนั้นในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ขยายตัวต่ำอย่างต่อเนื่อง เงินเฟ้อของไทยติดลบ -0.31% หรือเข้าสู่ภาวะเงินฝืด หนี้สาธารณะพุ่งถึง 62.14% หนี้ครัวเรือน 91.6% ของจีดีพี การส่งออกติดลบ และนักท่องเที่ยวไม่ได้เข้ามาตามคาดหมาย จึงจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไขเพื่อให้เศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะกบต้ม และพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า เพื่อให้คนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและมีความสุข มิเช่นนั้นเศรษฐกิจไทยอาจจะซึมยาวได้"นายพิชัย กล่าว