"อนุทิน"ชูแก้จนเป็นวาระแห่งชาติ ทั้งชาตินี้และชาติหน้า หนุนปัจจัยที่ 5 เรื่องการศึกษายกระดับชีวิต สร้างโอกาสรายได้
เมื่อเวันที่ 20 พ.ย.66 ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และสโมสรโรตารี จัดสัมมนาเรื่อง “การแก้ปัญหาความยากจน : วิถีสู่ความสำเร็จและความเป็นอยู่ที่ดี”
นายอนุทินชาญ วีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “วาระแห่งชาติ นโยบายแก้จนของประเทศไทย” ตอนหนึ่งระบุว่า ส่วนตัวคิดถึงกระทรวงสาธารณสุข ที่จะมีแนวทางการทำงาน ว่าจะต้องทำอะไรแต่พอมาถึงกระทรวงมหาดไทยมีห้องไลน์ (LINE) เยอะมากที่ต้องติดตามเรื่องไฟไหม้ น้ำท่วม ขโมย ซึ่งทำให้เห็นว่ากระทรวงมหาดไทย ถ้าจะช่วยเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เป้าหมายการ แก้ปัญหาต่างๆ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ประสบความสำเร็จ กระทรวงมหาดไทยต้องมีส่วนร่วมเป็นอย่างมาก ตัวรัฐมนตรีเองก็ต้องยอม ผลักดัน ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นนโยบายและสนับสนุนงาน จัดสรรงบประมาณ เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพ
นายอนุทิน กล่าวถึงนโยบายแก้จนว่า เป็นวาระแห่งชาติ ทั้งชาตินี้และชาติหน้า เพราะยังไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนไม่พูดเรื่องนี้ จะทำอย่างไรให้เป้าหมายนี้ เป็นวาระแห่งชาติที่แก้ไขไปได้ อย่าให้เป็นวาระถาวรอยู่คู่ประเทศไทย อยากขจัดความยากจนออกจากประเทศไทยไม่ได้ จนถึงตั้งใจว่าเมื่อมีโอกาส เข้ามาทำงานที่กระทรวงมหาดไทยก็อยากจะ ทำทุกอย่าง เพื่อกำจัดความยากจน ที่ถือเป็นภารกิจพันธกิจแรก ที่ตั้งใจทำที่กระทรวงมหาดไทยประกอบกับเทรนของโลก ดังนั้นปัญหาความยากจนเป็นพันธกิจ หากตั้งใจแก้ปัญหาอย่างน้อยชาวบ้านพี่น้องประชาชน ก็น่าจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า บางครั้งก็ท้อที่จะต้องไปพูดว่าต้องแก้ปัญหาความยากจนให้ได้โดยที่เรายังไม่รู้ว่าจะทำได้จริงหรือไม่ ต้องพูดกันไปกันมาโยนกันไปมา แต่การกระทำดีขึ้นแค่ไหนก็อยู่ที่การวางแผนการทำงาน ซึ่งปัจจัย 4 ที่เราใช้อยู่ คือ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค และปัจจัย 5 คือ มือถือ แต่แท้จริงแล้วปัจจัยที่ 5 คือการศึกษา โดยการแก้ปัญหาความยากจนในเบื้องต้นต้องเติมเต็มปัจจัย 4 ให้ประชาชน เพื่อให้พื้นฐานได้รับการดูแล โดยปัจจัยที่ 5 เรื่องการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญมาก ต้องสนับสนุนเพื่อให้วิเคราะห์คิดและประเมินเป็น เพราะเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิตของผู้คนในยุคนี้ ที่สังคมเปลี่ยนแปลงไปมากมาย ทั้งวัฒนธรรมประเพณี นอกจากนี้ช่วงชีวิตของคนยาวนานมากขึ้น อายุยืนขึ้นตายช้าลง ที่เรากำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย หากเราไม่ทำให้มีคุณภาพที่ดี จะทำให้เป็นภาระ และทำให้ประสิทธิภาพโอกาสต่างๆ การทำงานต่างๆถูกฉุดลง ซึ่งไม่ใช่ปัจจัยที่ดีแก่เยาวชน และการดำรงชีวิตต่อในภายภาคหน้า กระทรวงมหาดไทยในยุคที่ผมรับผิดชอบให้คำยืนยันได้ว่าพร้อมให้การสนับสนุนทั้งนโยบายและอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่เพื่อทำให้ความมุ่งหวังของทุกคน เข้าสู่เป้าหมายให้มากที่สุดพร้อมยืนยันจะทำให้สำเร็จ
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ตามสถิติอาชีพเกษตรกรรมเป็นผู้มีรายได้น้อยที่สุด ดังนั้นการแก้ไขปัญหาของกระทรวงมหาดไทยจะคำนึงถึงการที่มีที่ดินทำกินและการสร้างแหล่งน้ำ ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการผลิต จะใช้นวัตกรรมเพื่อมาบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเชื่อว่าจะแก้ปัญหาความยากจนได้ ทั้งนี้เรื่องการบริหารจัดการน้ำได้พูดคุยกับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ถึงแนวทางการทำงานที่มีเป้าหมายเดียวกัน เชื่อว่าจะใช้เวลาเท่าอายุรัฐบาลทำงานร่วมกันและยืนยันว่ารัฐบาลนี้จะทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยระหว่างกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงกระทรวงมหาดไทย ซึ่ง 3 กระทรวงมีภารกิจเดียวกัน ถ้ามีความจำเป็นก็ต้องมีการแลกเปลี่ยน โดยใช้ความสัมพันธ์ พูดคุยเพื่อเป็นประโยชน์แก่บ้านเมือง ไม่ได้ต้องการให้ทุกคนรวย เพราะความรวยของคนต่างกันมีหลายระดับ ซึ่งนโยบายแก้จนเป็นวาระแห่งชาติต้องสนับสนุนนโยบายขั้นพื้นฐานของประชาชนเปิดโอกาสให้ยกระดับชีวิตด้วยการศึกษาและสร้างโอกาสด้วยการสร้างรายได้ด้วยนวัตกรรมความคิดและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับบริบทในประเทศไทย ซึ่งถ้าจิ๊กซอว์เหล่านี้ถูกต่อให้ครบ ก็น่าจะประสบความสำเร็จในการลดความเหลื่อมล้ำ และแก้ปัญหาความยากจน พร้อมกับสร้างความเจริญเติบโตให้เกิดขึ้นต่อไป