ฉก.ท่าเพชรขยายผลจับผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติด "เอ พุทธมณฑล" ยึดไอซ์ 300 กรัม ยาบ้ากว่า 8 หมื่นเม็ด
เมื่อวันที่ 14 พ.ย.66 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ (ฉก.ท่าเพชร) ภายใต้การอำนวยการของ นายเจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.สุราษฎร์ธานี นายนันทวัช เจริญวรรณ รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี ว่าที่ร้อยโทสมชาย เรืองจันทร์ ปลัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี น.ส.ศริญดา ปาลคะเชนทร์ นายอำเภอคีรีรัฐนิคม พ.อ.อภิชัย เรืองฤทธิ์ ผบ.ร.25 พ.อ.นุกูล ดำสุวรรณ หน.ชป.ปส.กอ.รมน.ภาค 4 นายณัฐวงค์ เกตุแทน ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคง พร้อมฝ่ายปกครองอำเภอคีรีรัฐนิคม บูรณาการร่วมกับ ชุดปราบปรามยาเสพติดกองทัพภาคที่ 4 และ กรมทหารราบที่ 25 ร่วมกันจับกุมตัว นายสกล หรือ แจ๊ค อายุ 43 ปี พร้อมของกลางไอซ์ 300.8 กรัม นายจีระพงษ์ หรือ หมู อายุ 30 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 80,560 เม็ด
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 พ.ย.66 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้จับกุมนายประภาส หรือ บอย ในข้อหามียาสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า หรือ เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติด และได้ทำการขยายผล จับกุมนายแจ๊ค ซึ่งอยู่ในพื้นที่ จ.ราชบุรี ได้ใช้แอปพลิเคชั่น Messenger ติดต่อซื้อขายมาที่นายบอย ว่ามียาเสพติด(ไอซ์) 300 กรัม จะขายให้ในราคา 40,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงให้นายบอยติดต่อกลับไป โดยขอจ่ายเงินเป็นเงินสด นายแจ๊คจึงเดินทางจาก จ.ราชบุรี นำยาเสพติด(ไอซ์) จำนวน 300 กรัม มาส่งให้นายบอย ที่บ้านในพื้นที่ ม.2 ตำบลมะขามตี้ย อำเภอเมือง จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุมตัวพร้อมของกลางจำนวนดังกล่าว
จากนั้นได้ทำการขยายผลจับกุม นายจีระพงษ์ หรือหมู ซึ่งมีมีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ อ.ดีรีรัฐนิคม และเป็นเครือข่ายของ"นายเอ พุทธมณฑล" ซึ่งรู้จักคุ้นเคยกับนายแจ๊ค เป็นอย่างดี และทราบมาว่าจะนัดส่งยาเสพติดให้ นายหมูช่วงค่ำของวันที่ 11 พ.ย.66 ในพื้นที่ ต.ทำโรงช้ง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่จึงได้ด้ร่วมกันวางแผนจับกุม และได้ให้นายสกล โทรหานายหมู จนทราบว่าจะมีการลักลอบส่งมอบยาเสพติดที่บริเวณ พื้นที่ ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อถึงเวลานัดหมายนายหมูได้ลงมาจากรถกระบะ และเดินไปในพงหญ้าข้างทางแล้ว หยิบถุงสีดำในพงหญ้าขึ้นมา เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัว ได้พร้มของกลาง และผู้ต้องหายังรับสารภาพว่ายังมียาบ้า ซุกซ่อนที่บ้านพัก จึงได้ พาไปตรวจยึดรวมได้ของกลางรวมยาบ้าจำนวน 80,560 เม็ด ก่อนนำตัวไปสอบสวน และส่งพนักงานสอบสวนท้องที่จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป