"ชาดา"มอบนโยบายลุยยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ

2023-11-10 20:17:26

"ชาดา"มอบนโยบายลุยยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ

Advertisement

"ชาดา"มอบนโยบายกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน ขอขจัดยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ  ควบคุมอาวุธปืน  ผู้มีอิทธิพล เร่งน้ำประปาดื่มได้ อย่างน้อยให้มีจังหวัดละ 1 แห่ง ภายในปี 67

เมื่อวันที่ 10  พ.ย.66  นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย เดินทางมามอบนโยบายส่วนภูมิภาคประจำปี 2567 ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน (พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี และชัยนาท) ณ ห้องประชุมเดอะฮอลล์ 2 ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้ พาร์ค  จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล  รมช.ศึกษาธิการ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ประธานที่ปรึกษา รมช.มหาดไทย น.ส.พิมพฤดา ตันจรารักษ์ นายนรินทร์ คลังผา นายประดิษฐ์ สังขจาย ส.ส.พระนครศรีอยุธยา น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช ส.ส.ลพบุรี นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง นายนพ ชีวานันท์ เลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร อดีต ส.ส. พระนครศรีอยุธยา ร่วมคณะ โดยมีนางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ ซึ่งนับเป็นการลงพื้นที่ต่อเนื่อง จากการที่ได้ออกตรวจเยี่ยม และมอบนโยบายในพื้นที่ จ.อุทัยธานี ชัยนาท และนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 8 ต.ค.66 ที่ผ่านมา


นายชาดา ได้ประชุมหารือวงเล็กกับหัวหน้าส่วนราชการของแต่ละจังหวัด พร้อมกำชับเรื่องของการป้องกัน และปราบปรามปัญหายาเสพติด ก่อนจะพบข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทยทั้งหมด โดยระบุว่า ปัญหายาเสพติด เราต้องให้ความสำคัญเป็นวาระแห่งชาติ ปัจจุบันปัญหานี้มีความรุนแรงมาก เวลานี้ไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ที่ต้องช่วย บูรณาการร่วมกันกับทุกภาคส่วนแก้ไขปัญหา

"ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ต้องให้ความสำคัญกับเด็กวัยรุ่น โดยเฉพาะในยุคโซเชียล ที่อาจได้รับข้อมูลที่ผิด หรือยังไม่ได้รับการกลั่นกรอง เราต้องคอยสอดส่องดูแล อย่ามองว่าเด็กเหล่านี้เกเร ควรดึงให้เด็กกลุ่มนี้มาช่วยงาน ให้เขามีกิจกรรม ส่งเสริมทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง ที่ได้ทำตัวเป็นประโยชน์กับสังคม" นายชาดา กล่าว


นายชาดาได้เน้นย้ำนโยบาย 10 ข้อ ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล  รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย มอบหมายไว้ โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าใช้จ่ายของประชาชน เช่น น้ำดื่มสะอาดฟรี เพิ่มกำลังการผลิตน้ำประปาสะอาด น้ำประปาดื่มได้ ที่ตั้งเป้าให้ทั้งการประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค อย่างน้อยให้มีจังหวัดละ 1 แห่งในปี 2567 รวมถึงการลดค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันของทุกส่วนราชการ และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด

"วันนี้ผมมาเพื่อแก้ไขปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ภายใต้การบูรณาการ ระหว่างทีมมหาดไทยและทีมจังหวัดโดยยึดหลัก ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที ใช้กลไกผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการ หรือ ผู้ว่า CEO. คำนึงถึงความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และต้องวัดผลสัมฤทธิ์ได้ มหาดไทย ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของประเทศ ถ้าเส้นเลือดดี ร่างกายก็จะดีตาม ใช้การได้ดีเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ดังนั้นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ส่วนท้องถิ่น ควรช่วยกัน ทำงานส่งเสริมซึ่งกันและกัน" นายชาดา กล่าว


นายชาดา กล่าวอีกว่า จากเดิมที่ตนได้ตั้งปณิธานไว้ว่า ชีวิตที่เหลือนี้เพื่อคนอุทัย แต่ในปัจจุบันผมได้ปรับเปลี่ยน เป็น ชีวิตนี้ เพื่อคนไทยและสถาบันหลักของชาติ ผมได้เชิญชวนให้พวกเรา ได้มีความรักต่อสถาบันหลักของประเทศ ไม่ว่าความเป็นชาติไทย ศาสนาทุกศาสนาที่สอนให้พวกเราเป็นคนดีของสังคม และที่สำคัญคือความรักต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ยึดโยงความรัก และความสามัคคีของคนไทยต่อกันไว้

นายชาดา ได้มอบนโยบายว่า 1.สนับสนุนการปฏิบัติ ให้นโยบายของรัฐบาล และนโยบายของ รมว.มหาดไทย ทั้งปัญหาทางเศรษฐกิจ ที่ต้องเร่งฟื้นฟู โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจฐานราก และขอให้ความสำคัญกับการตอบสนองความต้องการของประชาชน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขจัดปัญหาการทุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ รวมไปถึงส่งเสริมให้เป็นรัฐบาลดิจิตัล ให้ประชาชนมีความสะดวกสบายในการรับบริการภาครัฐ ให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม 2.ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ต้องมีให้น้อยที่สุด หรือไม่ให้มีเลย ต้องช่วยกันสอดส่อง มีการจับกุม มีการบำบัดรักษาและช่วยกันดูแลอย่างต่อเนื่อง 3.ปัญหาเรื่องอาวุธปืน ไม่ว่าจะมีทะเบียนหรือไม่มี ต้องตรวจตรา และจับกุมอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการขอมีอาวุธปืน ต้องมีการตรวจสอบถึงความจำเป็น และการอนุญาตให้พกพา ต้องควบคุมให้เข้มงวดกว่านี้ 4.ปัญหาผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ที่ได้ดำเนินการไปแล้วบางส่วน โดยได้ตั้งคณะกรรมการระดับอำเภอขึ้น มีหัวหน้าสถานีตำรวจในพื้นที่ ร่วมกับส่วนราชการ โดยขอให้บูรณาการข้อมูลกัน ให้เกิดข้อมูลกลางเพื่อนำไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป 5.ขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นเสาหลักและเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนในพื้นที่ เล่นเพลงเดียวกันให้ได้ จะได้เป็นที่พึ่งให้กับประชาชนได้