"วิโรจน์"ชี้ตลกติดสติกเกอร์หน้ารถบรรทุกดินให้จำรถง่าย จี้นายกฯปฏิรูปตำรวจ
เมื่อวันที่ 9 พ.ย.66 ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบ กรณีส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก ว่า เป็นประเด็นที่ตนยืนยันว่า ไม่ใช่แค่การบรรทุกน้ำหนักเกิน แต่เป็นโครงการที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กำลังจะนำสายไฟฟ้าลงสู่ใต้ดิน 700 บ่อทั่ว กทม. ตนเข้าใจว่า วิศวกรของ กฟน. คงไม่ได้ออกแบบแผ่นปูนรองรับรถบรรทุกน้ำหนักกว่า 30 ตัน ที่อยู่ในสภาวะสั่นสะเทือนจากการวิ่งด้วย ดังนั้น เรื่องนี้กระทบถึงผู้ที่ใช้ยานพาหนะบนท้องถนนเป็นจำนวนมาก หากเราติดตามเรื่องถนนทรุดตัวใน กทม. เราก็จะเห็นข่าวลักษณะนี้อยู่เป็นระยะ
เมื่อถามว่ามีการชี้แจงว่าสติกเกอร์เป็นสัญลักษณ์ของบริษัทรับเหมา นายวิโรจน์ กล่าวว่า เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ตนได้ฟังการให้สัมภาษณ์ของ ผกก.สน.พระโขนง เขาก็บอกว่า เบื้องต้นได้สอบถามเจ้าของรถ ซึ่งเจ้าของรถตอบกลับมาว่า เป็นสติกเกอร์ที่ติดไว้ เพื่อให้คนขับรถแยกรถออกว่าจอดรถไว้ตรงไหน ซึ่งโดยปกติตนคิดว่า คนขับรถจำรถได้อยู่แล้ว หากจะออกแบบสติกเกอร์เช่นนั้น ตนมองว่า ออกแบบเป็นสติกเกอร์คาดหน้ารถรูปโลโก้บริษัทตนเอง ยังมีประโยชน์มากกว่า เพราะการติดสติกเกอร์ในลักษณะนี้ ไม่ได้ทำให้คนขับมองเห็น เรื่องนี้ควรต้องมีการสอบถาม หากติดสติกเกอร์ เพื่อให้มองเห็นรถ จำรถตนเองได้ง่าย ผมมองว่า ตลกมาก เป็นเรื่องที่ประชาชนก็รับไม่ได้ รู้อยู่แก่ใจ รู้อยู่แก่อก ขึ้นอยู่ที่ จะสอบ หรือไม่สอบเท่านั้น
เมื่อถามว่า มีการมองว่าสติกเกอร์ดังกล่าว เป็นชื่อของเจ้าของรถ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ก็เป็นชื่อเจ้าของอยู่แล้ว ตัว “B” บางคนก็บอกว่าย่อมาจาก “เสี่ยบิ๊ก” แต่ที่ต้องตั้งคำถามคือ “เสี่ยบิ๊ก” คือใคร มีการโยงใยไปถึงการเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่ ซึ่งตนมองว่า มีการตัดตอนคำตอบเร็วเกินไป ทำให้มองเป็นอย่างอื่นลำบาก
ต่อข้อถามว่า เหตุการณ์เมื่อวานนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าหน้าที่ กทม. และตำรวจเอง ดูมีความเกรงใจผู้รับเหมามากจนเกินไป นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่ามีการบ่ายเบี่ยงที่จะไม่ยอมชั่งน้ำหนัก ทั้งตัวรถ และดินที่ขน ถ้าเป็นตำรวจระดับผู้กำกับ และ ผบช.น. 5 ไม่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริง รวมถึงรักษาพยานวัตถุ และของกลางสำคัญ ที่จะพิสูจน์ว่า บรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ ถ้ายังขาดศักยภาพที่จะทำในเรื่องดังกล่าว ตนคิดว่า ทางผู้บัญชาการตำรวจ (ผบ.ตร.) ควรพิจารณาว่า ต้องหาคนที่เหมาะสมกว่านี้มาทำงานแทนหรือไม่ คุณปล่อยให้เขานำดินไปเทที่ไซต์งานได้อย่างไร ผมเข้าใจว่าต้องการกู้ตัวรถ แต่มันคือของกลาง การขนออกไปต้องเอามาเก็บไว้เป็นหลักฐาน ดังนั้น ข้ออ้างที่ติดสติกเกอร์ เพื่อให้จำรถได้ ก็ฟังไม่ขึ้นอยู่ดี ตำรวจทิ้งประเด็นนี้ไม่ได้
ส่วนจำเป็นหรือไม่ ที่นายกรัฐมนตรีจะต้องมีการดำเนินการอย่างจริงจังในเรื่องดังกล่าว นายวิโรจน์ กล่าวว่า ผลประโยชน์มันเยอะ และเป็นภัยต่อสาธารณะ เรื่องนี้เป็นวาระสำคัญ อันที่จริงไม่ใช่เพียงเรื่องรถบรรทุกน้ำหนักเกิน แต่เป็นความจำเป็นที่จะต้องมีการปฏิรูปตำรวจ แต่พอเราพูดถึงคำว่าปฏิรูปตำรวจทีไร ท่านนายกฯ ก็บอกว่า ให้แก้ไปทีละเรื่อง อย่าใช้คำว่าปฏิรูปเลย เรียกว่าแก้ทีละเรื่องดีกว่า คำว่าสังคายนาก็พูดไม่ได้ ผมจึงต้องส่งสารไปถึงนายกฯ ด้วยความหวังดีว่า การที่จะรักษาโรคอะไร จุดเริ่มต้นต้องยอมรับก่อนว่า เราป่วยจริงๆ และต้องหาหมอให้ถูกโรค ไปหาหมอเฉพาะทางซะ วันนี้ไม่ใช่เรื่องน้ำหนักเกิน แต่เป็นปัญหาที่แวดวงตำรวจถูกตั้งข้อสงสัย และขาดความไว้เนื้อเชื่อใจจากภาคประชาชน สุดท้ายก็จะส่งผลต่อความปลอดภัยต่อสาธารณะ หากรถมอเตอร์ไซต์ตกลงไปจะทำอย่างไร