"ราเมศ"ยัน ปชป. ให้ความร่วมมือแก้ รธน. บนพื้นฐานความถูกต้อง จริงใจ
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 66 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในฐานะที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน ก็พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เพื่อให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงเจตจำนงในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญมาโดยตลอด ที่ผ่านมามีการเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ตั้งแต่เรื่องสิทธิในกระบวนการยุติธรรม สิทธิชุมชน สิทธิผู้บริโภค สิทธิในที่ดินทำกิน เรื่องกระจายอำนาจ เรื่องการป้องกันการทุจริต รวมไปถึงการประกาศอย่างชัดเจนที่จะแก้ไขใน หมวดของการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ให้เป็นรัฐธรรมนูญที่แก้ไขได้ง่ายขึ้น โดยไม่ควรจะต้องใช้เสียงของสมาชิกวุฒิสภามาเป็นกรอบกำหนดที่ตายตัว และให้ใช้เสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภา ที่สำคัญกว่านั้นคือมีหนึ่งฉบับที่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขเรื่องระบบเลือกตั้ง จนเป็นที่มาที่ทำให้การเลือกตั้งในปี 2566 เป็นการใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ
นายราเมศ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้จึงถือได้ว่าเป็นเจตนารมย์อย่างชัดเจนของพรรคที่มีความมุ่งมั่นแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ขณะนี้แม้รัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อที่จะกำหนดกรอบของการทำประชามติเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และในส่วนของพรรคยังไม่ได้มีมติที่จะมอบหมายใครคนใดคนหนึ่งเพื่อไปเข้าร่วมในคณะกรรมการชุดดังกล่าว แต่ก็ยืนยันว่าพรรคพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และประการสำคัญคือในการแก้ไขครั้งนี้จะต้องไม่มีการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2
สำหรับในส่วนของพรรคก้าวไกลที่ถือได้ว่าเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน รวมถึงเรื่องของญัตติที่ได้เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร ในรายละเอียดนั้น ก็ยอมรับว่าในส่วนของเนื้อหาที่จะนำไปสู่การตั้งคำถามในการทำประชามติเป็นการกำหนดไว้กว้างเกินไปจนมีประเด็นที่ทำให้สังคมเกิดความสงสัยเช่นกันว่า หากไม่มีระบุไว้ในขั้นตอนกระบวนการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องไม่ไปแตะหมวด 1 และหมวด 2 หากเรื่องดังกล่าวไม่มีความชัดเจนก็ยากที่จะผ่านกระบวนการต่าง ๆ ทั้งในขั้นตอนของสภาผู้แทนราษฎร และในส่วนของฝ่ายบริหาร ที่รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวขึ้น ดังนั้นเมื่อเป็นประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีความสำคัญขนาดนี้ ทุกฝ่ายจะต้องตั้งหลักให้ดีเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มากขึ้น และการจะทำให้ประสบความสำเร็จได้ก็ความจำเป็นที่จะต้องแสวงหาแนวร่วม แสวงหาจุดยืนร่วมกันเพื่อที่จะให้เกิดผลสำเร็จ ด้วยการยึดหลักระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และยึดประโยชน์ของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเรื่องสิทธิของประชาชนไม่ควรตกหล่นไปดังเช่นรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่าน ๆ มา นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเด็นที่จะต้องช่วยกันคิดช่วยกันทำเพื่อที่จะได้เป็นหลักประกันขั้นพื้นฐานให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป แต่หากทุกฝ่ายยังยึดถือประโยชน์ของตนเป็นที่ตั้ง ก็ยากที่จะทำให้แก้ไขรัฐธรรมนูญประสบผลสำเร็จ
นายราเมศยังกล่าวอีกว่า การทำประชามติถึงสองครั้ง ทุกคนย่อมมองเห็นว่าต้องใช้งบประมาณจำนวนมากเพื่อดำเนินการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนผ่านการทำประชามติ สำหรับในส่วนของพรรคได้ติดตามเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องการตั้งคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้น จะเป็นการตั้งขึ้นเพื่อยื้อเวลาหรือไม่นั้นก็ไม่มีใครตอบได้ เพราะทุกการกระทำของรัฐบาลก็จะเป็นคำตอบได้ในวันข้างหน้า การที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่งคนเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการชุดดังกล่าว ไม่ใช่เพราะไม่ให้ความร่วมมือ เราให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ สิ่งไหนที่อยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง มีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือทั้งในสภาและนอกสภา แล้วก็ยืนยันอีกครั้งว่าในส่วนของการเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านกับพรรคก้าวไกลร่วมทำงานในรัฐสภาได้แต่เรื่องใดที่เรามีอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน เราจะไม่ไปร่วมในเรื่องดังกล่าวโดยเฉพาะหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของหมวด 1 และหมวด 2 ก็คงต้องเดินกันคนละทางในเรื่องนี้