รมว.แรงงานมอบ "อารี" ร่วมพิธีรับร่าง 11 แรงงานไทยเสียชีวิตจากอิสราเอลกลับสู่มาตุภูมิ
เมื่อวันที่ 1 พ.ย.66 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน มอบหมายให้ นายอารี ไกรนรา เลขานุการ รมว.แรงงาน พร้อมด้วย นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นผู้แทนกระทรวงแรงงานรับศพแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลอีกจำนวน 11 ราย พร้อมร่วมวางพวงหรีดแสดงความอาลัย โดยมี น.ส.เชาวนี ตังวงศ์ประเสริฐ ผอ.กองสัญชาติและนิติกรกรมการกงสุล เป็นผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ และนางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารระดับสูงจากทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ร่วมพิธี ณ บริเวณอาคารคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ
นายอารี กล่าวว่า รมว.แรงงาน ได้มอบหมายให้ผมพร้อมด้วย ท่านปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารระดับสูงจากทุกหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงแรงงาน เป็นผู้แทนของกระทรวงแรงงานในการมารับร่างแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล จำนวน 11 ราย ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตได้ส่งร่างแรงงานไทยชุดที่สามกลับมา ด้วยสายการบิน EL AL เที่ยวบินที่ LY083 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 12.40 น. พร้อมร่วมวางพวงหรีดของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเพื่อแสดงความอาลัย ทั้งนี้ รวมแล้วปัจจุบันมีร่างแรงงานไทยที่เสียชีวิตถึงประเทศไทยแล้วจำนวน 26 ราย
นายอารี กล่าวต่อว่า กระทรวงแรงงานส่งเจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัด เข้าแจ้งสิทธิประโยชน์ครอบครัวของแรงงาน ทั้งในส่วนรัฐบาลไทยเรียบร้อยแล้ว และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานที่อยู่ในจังหวัดภูมิลำเนาของแรงงานไทยได้ประสานครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่ออำนวยความสะดวกร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อรับร่างแรงงานทุกรายกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ภูมิลำเนาใน 8 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ อุดรธานี สกลนคร บุรีรัมย์ ขอนแก่น หนองบัวลำภู นครพนม และเชียงใหม่ แล้วเช่นกัน
“ผมขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อญาติพี่น้องและครอบครัวของพี่น้องแรงงานไทยทั้ง 11 ราย ในนามของท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ขอให้คำมั่นกับญาติของพี่น้องแรงงานไทยว่าเราจะดูแลสิทธิประโยชน์ของทุกท่านให้ได้รับสิทธิประโยชน์พึงได้ตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด”นายอารี กล่าว
ด้าน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่าหลังร่างผู้เสียชีวิตไปถึงภูมิลำเนา กระทรวงแรงงานจะนำเงินช่วยเหลือไปมอบให้กับกับทายาทของแรงงานไทยที่เสียชีวิต 40,000 บาท ซึ่งเป็นเงินสิทธิประโยชน์จากการเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ กรณีเสียชีวิตในต่างประเทศ นอกจากนี้มีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายประกันสังคมอิสราเอล (National Insurance Institute) ซึ่งในกรณีที่เสียชีวิตนี้ บิดามารดา ภรรยาตามกฎหมายและบุตรของผู้เสียชีวิตทุกคนจะได้รับเงินช่วยเหลือทุกเดือนจนกว่าภรรยาจะแต่งงานใหม่ หรือลูกมีอายุครบ 18 ปี นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคม โดยครอบครัวของแรงงานไทยซึ่งเป็นผู้ประกันตนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลจะได้รับเงินเยียวยาจากสำนักงานประกันสังคมตามมาตราที่แรงงานเป็นสมาชิก
ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันจากทางการอิสราเอล ได้รับบาดเจ็บ และถูกจับเป็นตัวประกัน จนถึงตอนนี้ยังคงมีจำนวนเท่าเดิม ตามข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศล่าสุด ที่ได้แจ้งจำนวนคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล