"เศรษฐา"เข้าสภาฯชิ่งตอบกระทู้ "ก้าวไกล" แต่ตอบ รทสช.ยันพร้อมให้เกียรติสภาฯ ขณะที่ "ส.ส.ก้าวไกล" เดือดรุมถล่มโผล่ไปตอบกระทู้ถามสดพรรคอื่น
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 26 ต.ค.66 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ซึ่งมีวาระการพิจารณากระทู้ถามสดของนายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เรื่อว กรณีปัญหาพลังงาน ปัญหาการปฏิรูปตำรวจ และกระบวนการยุติธรรมในการพิจารณาคดีการเมือง แต่ปรากฎว่านายเศรษฐามอบให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ชี้แจงแทน ทำให้นายชัยธวัช ไม่พอใจ กล่าวว่า ทำไมนายกรัฐมนตรีไม่ตอบกระทู้ถามสดตน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้วันที่ 25ต.ค.ส.ส. นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์จะมาตอบกระทู้ในสภาผู้แทนราษฎร ไม่หนีแน่นอน ตนก็สบายใจ แต่จู่ๆ บอกไม่มาตอบกระทู้ตน จะให้คนอื่นมาตอบแทน ไม่เหมาะสม คนที่มาตอบแทนไม่เกี่ยวกับกระทู้ที่ถาม ดังนั้นตนจะไม่ถาม จะนั่งรอนายกรัฐมนตรี อยากรู้จะมาตอบหรือไม่
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม ชี้แจงว่า รัฐมนตรีมีความรับผิดชอบร่วมกัน การที่นายกรัฐมนตรีให้มาตอบคำถามแทน ตนก็พร้อมมาชี้แจงตามความเป็นจริง ทำให้ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตามระเบียบข้อบังคับสภาผู้แทนราษฎร ข้อ151 บอกว่า การมอบให้บุคคลอื่นมาตอบกระทู้แทน ต้องแจ้งเป็นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อนถึงระเบียบกระทู้ถามสด พร้อมบอกเหตุผลที่มาไม่ได้ ดังนั้นถ้านายกรัฐมนตรีมีเหตุจำเป็น ให้ร่างหนังสือชี้แจงตอนนี้เลย อยู่ ๆ มอบให้คนอื่นตอบแบบฉับพลันเช่นนี้ ได้แจ้งเป็นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้วหรือไม่
นายพิเชษฐ์ ชี้แจงว่า นายกรัฐมนตรีมีหนังสือเลื่อนการตอบกระทู้สดมายังสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ถ้านายชัยธวัชจะไม่ถาม ตามข้อบังคับประชุมสภาฯข้อ155 ถือว่า กระทู้ตกไป ซึ่งนายวิโรจน์ ตอบโต้ว่า ทุกอย่างต้องเดินด้วยข้อบังคับ การที่นายกรัฐมนตรีมอบให้บุคคลอื่นมาตอบกระทู้แทน แต่ไม่แจ้งเหตุผลไม่มาตอบกระทู้ ถือว่าทำผิดข้อบังคับ151 จะปล่อยให้ทำผิดต่อหน้าสส.ไม่ได้
นายพิเชษฐ์ ใช้วินิจฉัยยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีดำเนินการถูกต้องตามข้อบังคับแล้ว ทำให้ ส.ส.พรรคก้าวไกลไม่ยอมและประท้วงอย่างต่อเนื่อง อาทิ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.กทม. ยืนยันนายกรัฐมนตรีทำผิดข้อบังคับ พร้อมต่อว่าประธานในที่ประชุมว่า วางตัวไม่เป็นกลาง ขณะที่ ส.ส.เพื่อไทย อาทิ น.ส.จิราพร สินธุไกร ส.ส.ร้อยเอ็ด บอกว่าเมื่อประธานวินิจฉัยแล้วถือเป็นเด็ดขาด ส่วนนายพิเชษฐ ประธานในที่ประชุมยืนยันว่า ปฏิบัติหน้าที่เป็นกลาง ถ้าคิดว่าทำไม่ถูก ให้ดำเนินการเอาผิด จากนั้นพยายามตัดบทสอบถามนายชัยธวัชจะถามกระทู้สดหรือไม่ แต่ก็ยังมีการประท้วงตอบโต้กันไปมาอีกพักใหญ่ หลังจากเถียงกันร่วม 30นาที จนกระทั่งนายชัยธวัช แจ้งว่า ไม่ประสงค์จะถามกระทู้สดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นจึงเข้าสู่กระทู้ถามสด ข้อ2 ที่นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) สอบถาม เรื่อง ประเด็นภารกิจการเดินทางไปเยือนต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี ช่วงวันที่ 9-21ต.ค.66 ระหว่างนั้นนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) แจ้งต่อที่ประชุมว่า ตอนนี้นายกรัฐมนตรีเดินทางมาใกล้ถึงสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ขอให้รออีกไม่กี่นาที
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินเข้ามาในห้องประชุมสภา นายอัครเดช ถามกระทู้สดว่า จะไม่ถามว่าวันนี้นายกรัฐมนตรีใส่ถุงเท้าสีอะไร เพราะนายกรัฐมนตรีใส่ถุงเท้าถือเป็นเรื่องปกติ แต่อยากสอบถามถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยได้จากการเดินทางไปพบผู้นำระดับสูงแต่ละประเทศช่วงที่ผ่านมา ทราบว่า ได้รับการต้อนรับอย่างดี ผู้นำแต่ละประเทศทราบดีว่า นายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้งของประชาชน นายกรัฐมนตรีก็ประกาศจะเป็นเซลล์แมนไปค้าขายให้ประเทศ รวมถึงอยากทราบมาตรการช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอลให้เดินทางกลับประเทศไทยอย่างปลอดภัย ซึ่งขอชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่ทำงานรวดเร็ว ช่วยคนไทยได้กลับประเทศหลายชุดแล้ว
นายเศรษฐา ตอบกระทู้ถามสดว่า วันนี้ใส่เนคไทสีส้ม ถุงเท้าสีเขียว ยืนยันให้เกียรติสภาฯเสมอ หากไม่ติดภารกิจจำเป็น จะมาตอบกระทู้ข้อสงสัยสมาชิก เป็นหน้าที่ฝ่ายบริหารต้องให้เกียรติฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนภารกิจเดินทางไปต่างประเทศนั้น อาทิ ที่ฮ่องกงได้เชื้อเชิญมาลงทุนในประเทศไทย จากนั้นไปบรูไน พบกับสมเด็จพระราชาธิบดีบรูไน หารือเรื่องการค้าขาย การส่งสินค้าเกษตร กองทุนความมั่นคงทางอาหาร ส่วนที่มาเลเซียหารือการค้าชายแดน ที่สิงคโปร์ก็หารือการค้าขายในอนาคต ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า การเจรจาเปิดประตูการค้าทางเกษตร ส่วนที่ซาอุดิอาระเบียมีการหารือเจรจาช่วยเหลือแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ที่สำคัญการเดินทางไปเยือนต่างประเทศ เราไปประกาศว่าประเทศไทยเปิดแล้ว พร้อมแล้ว ถือเป็นช่วงเวลาดีที่สุดที่จะมาลงทุนที่ประเทศไทย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนการช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอลกลับประเทศนั้น ช่วง 4-5วันที่ผ่ามา แรงงานไทยเริ่มหวั่นไหว ไม่อยากกลับ เพราะนายจ้างอิสราเอลจะให้ค่าจ้างเพิ่ม สะท้อนถึงปัญหาความยากจนประชาชน ทำไมต้องเอาชีวิตไปแลก เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับเงินที่เพิ่มให้ เรารู้อยู่แล้วจะมีการโจมตีภาคพื้นดินเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ เรื่องนี้รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ จะใช้แผนซ้อนแผน แม้นายจ้างพยายามให้ค่าจ้างยื้อแรงงานไทยอยู่ต่อ เพราะบางคนมีหนี้เป็นแสนบาทตอนเดินทางไปทำงาน ดังนั้นจะประสานสถาบันการเงินให้สินเชื่อพิเศษแรงงานเหล่านี้ ให้เอาเงินนี้ไปใช้หนี้ ดึงแรงงานกลับประเทศเร็วที่สุด พยายามเต็มที่ให้แรงงานไทยกลับมาโดยเร็ว ใช้ทุกวิธีให้แรงงานกลับบ้านปลอดภัย