นายกฯ ชี้คนไทยในอิสราเอลเปลี่ยนใจไม่กลับไทยเหตุนายจ้างดึงเรื่องจ่ายเงิน

2023-10-24 02:00:13

นายกฯ ชี้คนไทยในอิสราเอลเปลี่ยนใจไม่กลับไทยเหตุนายจ้างดึงเรื่องจ่ายเงิน

Advertisement

นายกฯ ชี้คนไทยในอิสราเอลเปลี่ยนใจไม่กลับไทยเหตุนายจ้างดึงเรื่องจ่ายเงิน 10 พ.ย. แถมอัพค่าจ้าง

เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินความไม่สงบในอิสราเอล-กาซา  ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ การที่มีคนเปลี่ยนใจไม่กลับมาเยอะพอสมควรเหมือนกัน เหตุผลหลักคือ ทางนายจ้างอิสราเอลดึงเรื่องการจ่ายเงินไปเป็นวันที่ 10 พ.ย. และมีการอัพค่าจ้างออกไปเพื่อเป็นแรงจูงใจให้แรงงานไทยอยู่ แต่ทางเราได้ประชุมกันแล้ว ยืนยันว่าแม้ว่าข่าวเรื่องการถล่มจะเบาบางลงไป แต่จริงๆ แล้วความเข้มของสงครามไม่ได้ลดลงไปเลย มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น และอาจจะขยายวงอีกบางประเทศที่ใกล้เคียงด้วย อยากขอเตือนพี่น้องว่ากลับมาเถอะ หากญาติพี่น้องอยู่ที่นี่ ขอให้บอกไปที่ญาติพี่น้องที่ทำงานที่นั่นให้กลับมา ต้องขอให้กลับมา เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ยังกลับได้อยู่ ถ้าเกิดมีการปฏิบัติการภาคพื้นดินเกิดขึ้น การกลับเข้ามาก็จะลำบาก เรื่องการเดินทางเข้าสู่ศูนย์อพยพเพื่อที่จะไปสนามบินก็จะลำบาก และขอว่าอย่าเปลี่ยนใจเลย วงเงินแค่ไหนก็ไม่คุ้มกับชีวิต และหากมีการปฏิบัติภาคพื้นดินเกิดขึ้น จะยิ่งลำเลียงคนออกมายังศูนย์พักพิงจะยากยิ่งขึ้น 

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมตนได้มอบหมายให้ รมว.แรงงาน ซึ่งรับปากจะไปดูแลแรงงานที่กลับเข้ามา โดยเพิ่มแรงจูงใจให้รีบกลับเข้ามา เพราะคนที่กลับเข้ามาได้เดือนละประมาณ 15,000 บาท และก็จะมีการเพิ่มค่าแรงให้อีก ขณะที่ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ก็เป็นห่วง และช่วยคิดวิธีการที่เวลาแรงงานไทยกลับเข้ามาแล้วจะให้ทำงานอะไร ทั้งนี้ การที่ตนไปร่วมประชุมเข้าร่วมการประชุม ASEAN-GCC Summit ที่ซาอุดีอาระเบีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ผ่านมาตนก็ได้พูดคุยกับกษัตริย์โอมานและบาห์เรน รวมถึงมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย ว่าเรามีการสูญเสียที่สูงมาก มีตัวประกัน 19 คน ซึ่งต้องยืนยันว่าเวลานี้ยังไม่รู้ชะตากรรม แต่ทุกเส้นทางเราพยายามทำงานกันอยู่ มีเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของเราบินออกไป แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าบินไปไหน และพบกับใคร แต่ยืนยันว่าเราทำทุกวิถีทางที่สามารถทำได้ พยายามทำอยู่ 

อย่างไรก็ตาม ภายหลังสัมภาษณ์รอบแรกเสร็จ นายเศรษฐา ได้กลับมาให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมอีกครั้งว่า ขอตั้งข้อสังเกตถึงกรณีที่จะมีการจ่ายค่าแรงในวันที่ 10 พ.ย. ทั้งที่การจ่ายเงินควรจะต้องเป็นวันที่ 31 ต.ค. ทำให้ชวนคิดได้ว่า ทำไมต้องไปจ่ายวันที่ 10 พ.ย. แสดงว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหรือไม่ เพราะหากจะจ่ายเงินวันที่ 10 พ.ย. แล้วถ้าก่อนหน้านั้นมีอะไรเกิดขึ้น จะได้กลับประเทศหรือไม่ ตนจึงจะโทรศัพท์ไปหาเอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะกรณีนี้ไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่ และเป็นเรื่องที่สำคัญ ละเอียดอ่อน อย่าเอาเรื่องเงินมาแลกกับชีวิตของคนไทย ไม่ใช่เอาเงินมาล่อให้เราอยู่ ถ้ามีการสูญเสียเกิดขึ้น ก็เป็นเรื่องใหญ่ 

เมื่อถามว่าไม่กลัวว่าจะเกิดเป็นประเด็นดราม่าตีกลับในเรื่องนี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตีกลับก็ตีกลับ ผมก็ต้องรับหน้าที่ผม คือดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยทุกคน ซึ่งพร้อมน้อมรับ