ช้างป่าทำร้ายผู้ใหญ่บ้านอาการสาหัส ขณะร่วมกับชาวบ้าน จนท.อุทยานแห่งชาติแก่งกรุงผลักดันช้างกลับป่า
เมื่อวันที่ 23 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ต.ค.66 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่และชาวบ้าน เข้าร่วมรอผลการตรวจอาการของ นายสำเนา ไกรเกศ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.คลองพา ที่โรงพยาบาลท่าชนะ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี หลังนายสำเนา ถูกช้างป่าแก่งกรุงทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ซึ่งแพทย์ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยชาวบ้านและเจ้าหน้าสามารถถ่ายคลิปขณะที่ผลักดันช้างไว้ได้ พบว่ามีช้างจำนวนมากทั้งช้างโตและช้างเล็กที่มีจำนวนมากเช่นกัน
โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นในพื้นที่หมู่ 21 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ขณะที่ชาวบ้านหมู่ 7,9,11 ต.คลองพา และ หมู่ 21 ต.ประสงค์ กว่า 100 คน เข้าร่วมกันผลักดันไล่ช้างป่าแก่งกรุงประมาณ 40-50 ตัว ที่ลงมากินปาล์ม มะพร้าว ต้นอ่อน และปาล์มขนาดความสูง 5 เมตร นอกจากนั้นระหว่างเดินยังทำให้ต้นทุเรียนได้รับความเสียหายด้วย ชาวบ้านจึงต้องขับไล่เข้าป่า
นายเสรี ศิริมาศ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 21 ต.ประสงค์ เล่าว่า วันนี้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านลงพื้นที่เริ่มไล่ช้างตั้งแต่เวลาประมาณ 10:00 น. ซึ่งก็มาสามารถไล่ช้างเข้าป่าไปได้แล้วประมาณ 30 ตัว จนเวลาประมาณ 13:00 น. ยังช่างอยู่อีกกลุ่มไม่ต่ำกว่า 10 ตัว ชาวบ้านก็ใช้ความพยายามไล่ด้วยการตีกระบอกไม้ไผ่ และส่งเสียงไล่ ตอนเกิดเหตุช้างได้เงียบเสียงลว ชาวบ้านก็เดินด้วยความระมัดระวังเข้าไปตรวจสอบ เพื่อไล่ให้เข้าป่าให้หมด เป็นจังหวะเดียวกันที่ช้างแม่ลูกอ่อนตัวใหญ่ประมาณ 4-5 ตัว ได้วิ่งเข้าใส่ชาวบ้านต่างวิ่งแตกกระเจิงเอาชีวิตรอด ส่วนผู้ใหญ่ถูกช้างใช้ส่วนหัวทับไปที่ตัวผู้บาดเจ็บ จากนั้นเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง จึงเข้าไปตามหาพบผู้ใหญ่นอนได้รับบาดเจ็บอยู่ จึงช่วยกันนำส่ง รพ.เบื้องต้น อาการค่อนข้างสาหัส บาดเจ็บที่หน้าลำตัวและขาด้านซ้าย แต่ก็รู้สึกตัวดีไม่หมดสติ เจ้าหน้าที่ รพ.ท่าชนะ ให้การรักษาเบื้องต้นและเตรียมส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
สำหรับปัญหาช้างป่าแก่งกรุงในปัจจุบัน พบมีช้างลงมาในพื้นที่ หมู่ 7,9,11 ต.คลองพา และ ม.13, 15 ,16 ,17 ,24 และ 21 ทำปาล์มและมะพร้าว ในพื้นที่เสีย เฉพาะช่วงเดือนนี้เสียหายเบื้องต้นประมาณ 100 ไร่ โดยก่อนก่อนหน้านี้ได้ทีการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติช้างป่า ในพื้นที่ตำบลประสงค์ไปแล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่เกษตรเข้าประเมินความเสียหายพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน ดำเนินการเยียวยาตามระเบียบทางราชการต่อไป