"ทิพานัน"ติงนักวิชาการให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน

2023-10-23 15:18:38

"ทิพานัน"ติงนักวิชาการให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน

Advertisement

"ทิพานัน"ติงนักวิชาการให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ยกผลงานเจรจาการค้าระหว่างประเทศยุค "ลุงตู่" ภาวะผู้นำที่ดีตลอด 9 ปี ทำทีมไทยแกร่ง 6 ด้าน ผลงานเพียบเปิดประเทศ เปิดโอกาส เปิดแนวทางใหม่การทุนในภูมิภาค

เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 66 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว อ้น ทิพานัน ศิริชนะ ถึงกรณีนักวิชาการแสดงความเห็นเปรียบเทียบการเจรจาการค้าระหว่างประเทศระหว่าง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ระบุว่าลุงตู่มีวิสัยทัศน์ที่ดี ทั้งเปิดประเทศ เปิดโอกาส เปิดแนวทางใหม่การลงทุนในภูมิภาค ที่สำคัญเพราะ “ภาวะผู้นำที่ดี” จึงมี ดังนี้ 1.มีผู้แทนการค้าไทยที่แข็งแกร่ง 2.มีทูตทางการค้าที่เข้าใจลูกค้า 3.มีนโยบายจากBOIที่ชวนมา ลงทุนโดยเฉพาะ 4.มีกฎหมายอำนวยความสะดวกสำหรับนักลงทุนโดยเฉพาะ 5.เดินหน้าเจรจาการค้ากับต่างประเทศมาตลอด9ปี 6.พัฒนาทุกมิติไม่ใช่แค่หิ้วกระเป๋าไปขายของ สิ่งเหล่านี้คือ "รากฐาน" สำหรับการไปขายของในอนาคต

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ส่วนบทความตอนหนึ่งที่กล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ จาก นายพิชาย รัตนดิลก เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2566 ว่า “เพราะถ้ามีการเปรียบเทียบทั้งสองคน ในแง่การไปเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สมัยพล.อ.ประยุทธ์ เรื่องการเจรจาพูดคุยอะไรต่างๆ กับต่างชาติติดลบ และการเดินสายต่างประเทศคงเป็นความพยายามหลังจากที่ขาดหายไปนานในรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จึงถือเป็นความพยายามอีกอย่างหนึ่งท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจที่หลากหลาย” นั้น ตรงนี้การนำเสนอตรงนี้อาจไม่ครบถ้วนตรงตามหลักวิชาการ และคนอาจเชื่อตามข้อมูลนั้นไปแบบไม่ครบถ้วน

"ขอนำเสนอข้อมูลให้ครบถ้วนอีกด้าน เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องครบถ้วนทุกมิติ ที่ทำให้เห็นว่า ลุงตู่วางรากฐานการลงทุนที่จับต้องได้ ไม่ขายฝัน และมีคนทำงานแต่ละด้านที่เป็นมืออาชีพ จนสำเร็จลุล่วง และเดินหน้าพบปะกับต่างชาติทั่วโลกมาตลอดระยะเวลา 9 ปี และมีผลงานโดดเด่นมากมาย เช่น ซาอุอิอาระเบีย จีน เป็นต้น”น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ในส่วนการเดินทางพบผู้นำและประชุมระดับโลกและอาเซียน ของลุงตู่ เพื่อการค้าและการลงทุน และมิติอื่นๆ มีอะไรบ้าง ขอยกตัวอย่าง เช่น วันที่ 12 -15 ธ.ค. 65 #ประชุมสุดยอดอาเซียน–สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ ที่บรัสเซลส์ เบลเยียม วันที่ 12-13 พ.ค. 65 การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา ที่ วอชิงตันดี.ซี สหรัฐอเมริกา วันที่ 25 ม.ค. 65 เยือนซาอุดีอาระเบีย เป็น "ความสำเร็จในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ไทย - ซาอุดีอาระเบีย ให้กลับมาอยู่ใน 'ระดับปกติ' อย่างสมบูรณ์ ถือเป็นการสิ้นสุด 3 ทศวรรษแห่งความห่างเหิน และเป็นก้าวแรกของ “โอกาสอันมากมายมหาศาล" 9 ด้าน เช่น การท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้ไทยไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี ,การค้าและการลงทุน ลู่ทางธุรกิจและหุ้นส่วนทางการค้าในซาอุดีฯและกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และการดึงดูดซาอุดีฯ ลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษต่างๆ ของไทย เป็นต้นตะวันออกกลาง วันที่ 16-18 มิ.ย. 59 เยือนอินเดีย เพื่อความร่วมมือด้านการค้า-ความมั่นคง วันที่ 17-21 พ.ค. 59 เยือนรัสเซีย ฟื้นความสัมพันธ์ในรอบ 11 ปี เป็นต้น

น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้รัฐบาลลุงตู่ต้อนรับผู้นำที่มาเยือนไทย แสดงให้ต่างชาติเห็นศักยภาพบ้านเมืองไทยที่เจริญและน่าลงทุนจริงๆ อาทิ วันที่ 10ก.ค. 65 รมว.ต่างประเทศของอเมริกา และไทยและสหรัฐลงนามร่วมกันในแถลงการณ์ว่าด้วยความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ วันที่ 4-5 ก.ค. 65 มนตรีแห่งรัฐ และ รมว.ต่างประเทศของจีน ส่งเสริมการลงทุนใน EEC พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมโยง รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาวกับระบบรางและรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนของไทย ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ลงนาม MOU ด้านการรรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ วันที่ 1 -2 พ.ค. 65 นายกฯ ญี่ปุ่น วันที่ 20-23 พ.ย. 62 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส วันที่ 8 ส.ค. 60 รมว.ต่างประเทศของอเมริกา เป็นต้น

“ความสำเร็จที่โดดเด่น และปังที่สุดคือ วันที่ 18-19 พ.ย. 65 ลุงตู่ เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมเอเปค APEC2022 ต้อนรับผู้นำจาก 21 เขตเศรษฐกิจ และได้รับคำชมเชยจาก ผอ.เลขาธิการเอเปค ยกย่องไทย จัดประชุม APEC2022 ได้ยอดเยี่ยม ระดับ world class และผลักดัน “เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG” สำเร็จในเวทีโลก  15 พ.ย. 63 ไทยร่วมก่อตั้งและลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค RCEP กับ 14 ประเทศ (บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้) ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรรวมกันกว่า 2,200 ล้านคน (30% ของ GDP โลก) เพิ่มโอกาสและศักยภาพในการแข่งขันให้กับสินค้าไทยให้ได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นเริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค. 65” น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า ในวันที่ 16 ธ.ค. 62 “ประเทศแรกในเอเชีย” ไทยประกาศใช้แผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ส่วนในปี 61-66 ไทยคงสถานะอันดับสูงสุดในอาเซียน 5 ปีซ้อน สำหรับดัชนีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Index) ปี 58-61 ไทยได้รับเลือกให้เป็นประเทศผู้ประสานงานระหว่างอาเซียนกับ EU นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ #รัฐบาลลุงตู่ วางรากฐานความเชื่อมั่น เปิดประเทศและไปแนะนำประเทศ ให้คนทั่วโลกรู้จักและมาลงทุนในไทย  ดังนั้นอาจมีใครหลายคนที่อาจจะยังไม่ทราบข้อมูลและวิจารณ์บนพื้นฐานไม่รู้…จะได้รู้เพิ่มเติม ข้อมูลจาก https://www.soc.go.th/?page_id=10338  รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ (1) ปีที่ 1-4 และ (2) ปีที่ 1-3 ลองหาอ่านดูเผื่อใครสนใจ