ไส้ติ่งแตกเคลมประกันไม่ได้ "กะทิ" อินฟลูฯ คนดัง โวย รพ.ทำเป็นหนี้เกือบ 2 แสน

2023-10-23 13:50:55

ไส้ติ่งแตกเคลมประกันไม่ได้ "กะทิ" อินฟลูฯ คนดัง โวย รพ.ทำเป็นหนี้เกือบ 2 แสน

Advertisement

อุทาหรณ์สำหรับคนทำประกัน !! ไส้ติ่งแตกเคลมประกันไม่ได้ "กะทิ" อินฟลูฯ คนดัง โวย รพ.ทำเป็นหนี้เกือบ 2 แสน อ้างต้องรอประวัติการรักษา



แล้วจะทำประกันไปทำไม ถ้าไม่ได้รับความสะดวกอย่างที่แจ้งๆ กันมา ? "กะทิ หิ้วหวี" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Miss Keemao 2023 (มิสขี้เมา)" ออกมารีวิวบริษัทประกันแห่งหนึ่ง แชร์ประสบการณ์สุดเฟลในการผ่าไส้ติ่ง แต่กลับเคลมประกันไม่ได้ จนทำให้เกิดหนี้เกือบ 2 แสนบาท 




โดยได้โพสต์คลิปผ่านทาง TikTok แชร์ประสบการณ์ป่วยเป็นไส้ติ่ง มีอาการบวมจนอาจเกิดอันตราย ถ้าปล่อยไว้นานจะอักเสบกว่านี้ จึงไปรักษาและทำการผ่าตัด ซึ่งที่ผ่านมา "กะทิ" ซื้อประกันของบริษัทหนึ่งมา 7 เดือน เบี้ยประกันอยู่ที่ 6 ล้านบาท จ่ายเบี้ยประกันปีละประมาณ 36,000-37,000 บาท ซึ่งเธอได้ส่งผลตรวจสุขภาพไป เพราะทำหน้าอกและดูดไขมันมา จึงส่งให้ทางประกันไปว่า ตนเองปกติ ไม่ได้เป็นโรคอะไร ซึ่งทางประกันก็อนุมัติ





โดยวันที่ 3 กันยายน 2566 "กะทิ" มีอาการเท้าบวมซึ่งแพทย์ก็ระบุว่า เป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่ใช้เท้าบ่อยและใส่ส้นสูงทั้งวัน เจ้าตัวก็ส่งบัตรประกันไปและสำรองจ่ายเงินตามปกติ ซึ่งค่ารักษาครั้งนั้นประมาณ 20,000 บาท

ล่าสุด "กะทิ" มีอาการป่วยเป็นไส้ติ่ง ตัวแทนประกันก็บอกว่าไม่ต้องสำรองจ่าย สามารถเข้าแอดมิตได้เพราะคล้ายกับอุบัติเหตุที่อยู่ๆ ก็เกิดขึ้นได้





หลังจากที่เธอรักษาตัวเสร็จ ทางบริษัทประกันส่งข้อความมาโดยระบุว่า “ทั้งนี้การอนุมัติสินไหมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ และความจำเป็นของทางการแพทย์ ด้วยความห่วงใย”

เมื่อวันที่ "กะทิ" จะออกจากโรงพยาบาล ทางบริษัทประกันส่งข้อความมาอีกครั้ง ระบุว่า “อยู่ระหว่างรอข้อมูลเพิ่มเติมจากโรงพยาบาล” ซึ่งทางโรงพยาบาลส่งข้อมูลไปเรียบร้อยแล้ว

ต่อมาทางบริษัทประกัน ส่งข้อความมาว่า “ไม่สามารถเคลมได้ กรุณาถามรายละเอียดได้ที่จุดบริการโรงพยาบาล” เธอจึงถามตัวแทนถึงเหตุผลที่เคลมไม่ได้ ซึ่งได้คำตอบมาว่า “ต้องดูประวัติการตรวจสุขภาพก่อน” ทำให้กะทิมีคำถามว่า ทำไมทางบริษัทประกันจะต้องตรวจสอบ ทางประกันให้คำเหตุผลว่า ครั้งแรกที่เท้าบวม ทางบริษัทสงสัยว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เลยต้องขอประวัติการรักษาทั้งหมดเพื่อดูว่าสาเหตุเกิดจากอะไร แต่กรณีล่าสุดคือ ผ่าตัดไส้ติ่ง แล้วจึงเกี่ยวอะไรกับเท้าบวม ซึ่งทางประกันตอบกลับมาว่า ต้องพิจารณาเคสแรกก่อน เคสที่สองถึงจะตามมา





ทั้งนี้ ทางประกันให้สำรองจ่ายก่อน ซึ่งค่ารักษาพยายาลเกือบ 184,610 บาท ได้แต่ตั้งคำถามว่าหากต้องสำรองจ่ายก่อนแล้วจะซื้อประกันไปเพื่ออะไร โทรไปถามคอลเซ็นเตอร์ก็ปัดความรับผิดชอบหมด

ทั้งนี้ ตัวแทนประกันแจ้งกลับมาอีกครั้งว่า หากไม่ติดอะไร ได้เงินคืนหมดแน่นอน แต่ขอให้รอก่อน แล้วถ้าเคลมไม่ได้ "กะทิ" ก็ต้องเป็นหนี้และเดือดร้อนอย่างนั้นหรือ ? เพราะเธอก็ต้องไปยืมเงินเพื่อนมาจ่ายค่ารักษาไปก่อน จึงอยากฝากไว้ให้ทุกคนพิจารณา และอ่านรายละเอียดดีๆ ก่อนทำประกัน