ชาวบ้านนับร้อยรายแห่แจ้งความหลังถอนเงินจากกลุ่มออมทรัพย์ไม่ได้มานานร่วม 2 ปี
เมื่อวันที่ 18 ต.ค.66 ที่ สภ.ขุนทะเล ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี กลุ่มประชาชนบ้านท่าสน ม.7 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี กว่า 200 คน เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.ปิยวัฒน์ บัวขาว ผกก.สภ.ขุนทะเล หลังได้รับความเดือดร้อน จากกลุ่มออมทรัพย์แห่งหนึ่ง เนื่องจากชาวบ้านไม่สามารถถอนเงินจากกลุ่มออมทรัพย์ได้ เป็นระยะเวลาประมาณเกือบ 2 ปี จนต้องรวมตัวเข้าแจ้งความเพราะแต่ละรายมีเงินในกลุ่มออมทรัพย์หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ยอดรวมความเสียหายหลายสิบล้านบาท
นายอภิศักดิ์ จันทรัตน์ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/26 ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่าตนเองและครอบครัว เริ่มเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มตั้งแต่ประมาณปี 57 และได้สะสมเงินทุกเดือนเดือนละ 500- 1,000 บาท มียอดเงินสะสม 30,000 บาท แต่เมื่อรวมทั้งครอบครัวมียอดกว่า 1 แสนบาท ตนก็ไม่เคยกู้เงินกับกลุ่มเลย แต่ประมาณช่วง 2 ปีที่ผ่านมาอยากจะขอถอนเงินคืน แต่กลับถอนเงินไม่ได้ ได้ถามไปยังประธานกลุ่มกลับได้รับคำตอบว่า ไม่มีเงิน เพราะไม่สามารถเรียกเก็บเงินจากสมาชิกที่กู้เงินไปกลับคืนมาได้ ซึ่งตนมองว่าไม่ถูกต้อง เพราะกรรมการต้องเป็นผู้รับผิดชอบ จึงได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความ
ด้านนายธนงศักดิ์ ลิ้มสกุล ชาวบ้านอีกรายที่มีเงินสะสมในกลุ่มออมทรัพย์จำนวนกว่า 2 แสนบาท บอกว่า สมาชิกลุ่มออมทรัพย์มีมากกว่า 1,000 คน ยอดเงินสะสมในกลุ่มออมทรัพย์ประมาณ 35-40 ล้านบาท แต่พอชาวบ้านจะถอนเงินประธานกลุ่มกลับบอกว่าไม่มีเงินจ่ายเนื่องจากคนที่กู้เงินไปไม่คืนเงินกู้
ด้านประธานกลุ่มกลุ่มออมทรัพย์ ชี้แจงว่า กลุ่มออมทรัพย์แห่งนี้เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2541 มีเงินหมุนเวียนกว่า 40 ล้านบาท หลังจากโควิด มีการทยอยลาออกจากการเป็นสมาชิกหลายร้อยคน ซึ่งอาจเกิดจากภาวะเศรษฐกิจ จึงต้องนำเงินที่สะสมไปใช้ ทางกลุ่มก็ดำเนินการคืนเงินไปให้ในส่วนที่ลาออกจากสมาชิก ส่วนคนที่กู้เงินยอดเงินกู้รวมกว่า 10 ล้านบาท ก็ไม่คืนทำให้กลุ่มเกิดปัญหาด้านการเงิน มีเงินเหลืออยู่ในบัญชีกลุ่มประมาณ 7 แสนกว่าบาทซึ่งคณะกรรมการก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็ได้ดำเนินการฟ้องร้องกับผู้ที่กู้เงินและไม่คืนเพื่อให้เป็นตัวอย่างแล้วจำนวน 10 ยอดเงินกว่าล้านบาท แม้ศาลตัดสินแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถเรียกเงินคืนได้ แต่บางรายที่เอาที่ดินมาค้ำประกันก็สามารถเรียกเงินคืนได้ แต่ก็เป็นส่วนน้อยเพราะส่วนใหญ่กู้เงินแบบใช้คนค้ำประกัน และเมื่อปีที่ผ่านมาเกิดไฟฟ้าลัดวงจรไหม้สำนักงานกลุ่มที่ขอใช้พื้นที่ อบต.มะขามเตี้ย เป็นสำนักงาน ทำให้ข้อมูลส่วนใหญ่สูญหาย หลังจากนี้คงต้องแจ้งทนายดำเนินการฟ้องร้องคนที่กู้แล้วไม่คืนทั้งหมด แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายมากเช่นกัน ในส่วนของตนมีเงินค้างอยู่ในกลุ่มทั้งครอบครัวรวมกันกว่า 4 แสนบาท ก็ไม่ได้ถอนคืน พยายามหาเงินคืนสมาชิกก่อน เพราะเข้าใจว่าทุกคนต้องการใช้เงิน
ขณะที่ พ.ต.อ.ปิยวัฒน์ บัวขาว ผกก.สภ.ขุนทะเล เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการรับแจ้งความ และจัดกำลังพนักงานสอบสวนจัดคิวสอบปากคำผู้ที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด ซึ่งจะดำเนินการให้เร็วที่สุด เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก ส่วนความผิดในประเด็นใดจะต้องสอบข้อมูลให้ละเอียดที่สุด และจะได้ประสานทางกรรมการบริหารของกลุ่มเข้าสอบปากคำอีกครั้ง เพื่อหาข้อสรุปซึ่งจะดำเนินการให้เร็วที่สุดต่อไป