"หญิงหน่อย"แนะรัฐบาลเร่งเช่าเหมาลำเครื่องบินพาณิชย์อย่างน้อย 5-6 เที่ยวต่อวันรับแรงงานไทยกลับบ้าน ควรจบใน 1 สัปดาห์
เมื่อวันที่ 16 ต.ค.66 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศรายงานสถานะคนไทยที่ได้รับผลกระทบ จากสงครามระหว่างอิสราเอล และฮามาส ซึ่งมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 4 ราย ทำให้มียอดรวมในขณะนี้ มีผู้เสียชีวิต 28 ราย บาดเจ็บ 16 ราย และถูกจับไปเป็นตัวประกันเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย ทำให้ยอดรวมมีผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกันจนถึงตอนนี้รวม 17 ราย
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุเพิ่มเติมว่า จากการลงพื้นที่ จังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดยโสธร วานนี้ โดยไปเยี่ยมให้กำลังใจญาติของแรงงานไทยในอิสราเอลพบว่า หลายคนเสียขวัญและกังวลใจ เพราะแรงงานส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเดินทาง กลับสู่ประเทศไทยตามความประสงค์ได้ ขณะที่การสู้รบ ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จึงกังวลว่าแรงงานไทยที่อยู่ในอิสราเอล อาจสูญเสียเพิ่มมากขึ้น
หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ระบุว่า จากการประเมินสถานการณ์ สงครามระหว่าง อิสราเอล และกลุ่มฮามาส ดูท่าจะไม่จบลงง่าย อาจยืดเยื้อ และมีความรุนแรงมากขึ้น จึงต้องเร่งนำคนไทยกลับบ้านให้เร็วที่สุด เพราะชีวิตคนไทยสำคัญที่สุด จึงขอเสนอรัฐบาล 2 เรื่อง 1) นอกจากใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศ ไปรับวันละเที่ยว ขอให้เช่าเหมาลำเครื่องบินพาณิชย์ เพิ่มวันละ 5-6 เที่ยว เพื่อระดมบินไปรับแรงงานไทยที่ต้องการกลับบ้านทั้งหมด ให้จบภายในหนึ่งสัปดาห์ ก่อนเหตุการณ์จะรุนแรงมากขึ้นไปกว่านี้ ซึ่งจะทำให้ชีวิตคนไทยตกอยู่ในอันตรายมากขึ้น 2) สร้างความมั่นใจให้แรงงานไทยว่าเมื่อสงครามจบรัฐบาลไทยจะช่วยพาพวกเขากลับไปทำงานที่ อิสราเอลได้ โดยช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่าย และใบอนุญาตเข้าเมือง และทำงาน อย่างถูกกฏหมาย เพราะจากการพูดคุยกับญาติของแรงงาน หลายส่วนกังวลว่าเมื่อเดินทางกลับมาแล้วจะไม่มีโอกาสได้กลับไปทำงานอย่างประเทศอิสราเอลเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายและชำระหนี้สินได้ ซึ่งตนขอเป็นกำลังใจให้กับแรงงานไทย และญาติทุกคน รวมทั้งรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ช่วยกันอย่างอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่เดินทางกลับถึงประเทศไทย นอกจากกระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักควบคุมและป้องกันโรค จะคัดกรองสุขภาพของผู้ที่เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว ตนเห็นว่าจำเป็นต้องประเมิน คัดกรองด้านสุขภาพจิต หากพบว่าแรงงานมีความเครียดหรือ มีความกังวลใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินมาตรการ เพื่อดูแล พี่น้องแรงงานไทยอย่างถูกต้องต่อไป