"วราวุธ"เผยคนเข้าร่วมโครงการค่าเช่าบ้านคนละครึ่งไม่ถึง 100 ราย แจงเงื่อนไขไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีงานทำ เป็นห้องเช่าราคาถูก
เมื่อวันที่ 3 ต.ค.66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงรายละเอียดโครงการค่าเช่าบ้านคนละคนครึ่ง ว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการได้มีนโยบายที่พักอาศัยสนับสนุนเงินครึ่งหนึ่งในการเช่าที่พักอาศัย โดยมีเงื่อนไขคือเป็นผู้ที่ไร้บ้าน หรือไม่มีงานทำ โดยให้เช่าบ้านราคาถูก ห้องละประมาณ 2,000-3,000 บาท เช่น ผู้ไร้บ้านที่ อยู่ย่านหัวลำโพง ถ้ายังไม่มีงานทำ ทางกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการได้ร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในการออกค่าที่พักอาศัยให้ครึ่งหนึ่ง แล้วอีกครึ่งหนึ่งผู้ไร้บ้าน หรือยังไม่มีงานทำจะต้องออกเอง นอกจากช่วยค่าที่พักแล้วกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการจะช่วยหางานช่วยฝึกอาชีพให้ เป็นการดึงศักยภาพ ของคนไร้บ้านและคนที่ยังไม่มีงานทำ ให้ใช้ความสามารถของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ในการดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบันได้ มีงานทำมีรายได้เป็นหลักแหล่งตามโครงการดังกล่าวเราเริ่มมาได้ประมาณ 1 ปีแล้ว แต่ยังมีคนเข้าร่วมโครงการไม่มากเท่าที่ควร ยังไม่ถึง 100 คนด้วยซ้ำ แต่ผู้ที่เข้าร่วมโครงการแล้ว เราก็พบว่าเขาสามารถตั้งตัวได้ บางคนจนถึงวันนี้ไม่จำเป็นต้องอยู่ในโครงการอีกต่อไป มีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า สถานการณ์คนไร้บ้านในปัจจุบัน มีจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งตามภารกิจที่สำคัญของพม. คือต้องการให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีงานทำมีรายได้ ที่เป็นหลักแหล่ง เราอยากให้มีงานทำทุกคน แต่ปัจจุบันนี้พบว่าส่วนใหญ่จะทำงายเป็นจ๊อบๆ มีรายได้ที่ไม่มั่นคง ทางกรมพัฒนาสังคมฯ จึงอยากให้เป็นคนทำงายแบบประจำเพื่อให้มีรายได้ที่มั่นคงขึ้น อย่างไรก็ตามในสัปดาห์หน้า นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะมาหารือกับตนที่กระทรวงพม. เราก็จะเห็นตัวเลขที่แม่นยำขึ้นว่าคนไร้บ้านที่กรุงเทพฯ มีจำนวนเท่าไหร่
สำหรับเงื่อนไขของผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการจ่ายค่าเช่าบ้านคนละครึ่งนั้น หลักๆ คือจะต้องเป็นผู้ที่ไม่มีที่อยู่อาศัย และเป็นผู้ที่ยังไม่มีงานทำ และที่พักที่จะเช่านั้น ต้องไม่ใช่อพาร์ทเม้นท์หรูหรา แต่เป็นห้องเช่าราคาถูก ที่อย่างน้อยก็จะทำให้คนที่ประสบปัญหาไม่มีที่พักอาศัย จะสามารถมีที่อยู่และมีงานทำ ทั้งนี้ ที่พักอาศัยดังกล่าวจะเป็นของเอกชนก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นที่พักอาศัยของทางภาครัฐเท่านั้น โดยสามารถติดต่อสมัครเข้ามาที่กรมการพัฒนาสังคมฯ ได้ จึงอยากให้มีคนเข้าร่วมโครงการให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อลดปัญหาคนไร้บ้านใน กทม. และเมืองใหญ่ ซึ่งกระทรวงพม.ตั้งเป้าเอาไว้ว่า ภายในปี 2579 ประชาชนทุกคนต้องมีที่อยู่อาศัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น