"ทนายอนันต์ชัย" ลุยฟ้องค้นบ้านพัก "บิ๊กโจ๊ก" กลั่นแกล้ง ดิสเครดิต เปลี่ยนฉายา "โจ๊กอัคนี"
เมื่อวันที่ 27 ก.ย.66 นายอนันต์ชัย ไชยเดช พร้อมทีมทนายความ เดินทางมาที่สโมสรตำรวจ เพื่อเข้าหารือกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้รับการติดต่อจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้ดูแลใน 2 ส่วน คือ ดูแลเรื่องกรณีมีบุคคลไม่หวังดีกลั่นแกล้ง รวมไปถึงเรื่องของการค้นบ้าน ส่วนที่ 2 คือ ผู้ใต้บังคับบัญชาที่โดนออกหมายจับ 8 นาย ซึ่งจะต้องมาดูกันว่าส่วนไหนมีข้อพิรุธ แต่ถ้าหากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิด ก็ว่าไปตามผิด จะไม่ปกป้อง ตนเคยเป็นทนายความของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช อดีต ผบ.ตร. มาก่อน ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ก็เคยเกิดขึ้นในสมัยของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แต่ครั้งนั้นมองว่าหนักกว่าของบิ๊กโจ๊ก จึงรู้สึกไม่หนักใจ เบื้องต้นก็ได้พูดคุยกันในทีมทนายเเล้วว่า หลังจากนี้การให้สัมภาษณ์ใดๆ ก็ตาม จะต้องผ่านทีมทนายความเท่านั้น เพื่อรักษาภาพลักษณ์ เเล้วไปสู้กันในศาล
"เราจะดูทั้งหมดรวมถึงการให้สัมภาษณ์สื่อของทุกคนและการออกสื่อของบางสำนักจะดำเนินคดีทุกคดีเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง และจะตั้งวอร์รูมให้ติดตามข่าวสารทางสื่ออย่างใกล้ชิด และจะทยอยฟ้องเรื่อยๆ ยืนยันว่าไม่ได้ฟ้องเพื่อเตะตัดขาแต่เป็นการฟ้องเพื่อใช้สิทธิ เตือนอีกครั้งหน่วยงานที่รู้ข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงินทางธนาคาร เดี๋ยวท่านจะโดนข้อหานำความลับส่วนตัวมาเปิดเผย"นายอนันต์ชัย กล่าว
นายอนันต์ชัย กล่าวต่อว่า เหตุการณ์นี้เกิดก่อนที่จะมีการเลือก ผบ.ตร. คนใหม่ เชื่อว่าประชาชนหรือแม้กระทั่งเด็กอนุบาลก็น่าจะมองออกว่า ปฏิบัติการค้นบ้านมีเจตนาอะไร และการออกหมายค้น ก็มองว่าไม่ปกติ เพราะท่านมีตำแหน่งเป็นถึงรอง ผบ.ตร. การเอาหน่วยคอมมานโดบุกไปที่บ้าน เป็นเรื่องที่ไม่สมควร ผมไม่เชื่อว่าตำรวจที่ไปค้นบ้าน จะไม่รู้ว่าเป็นบ้านของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ดังนั้น การกระทำนี้ว่าเป็นการกลั่นเเกล้ง ดิสเครดิต หน้าที่ของผมคือจะต้องทำความจริงให้ปรากฏ ถ้าอึมครึมอยู่แบบนี้ ชื่อเสียงเกียรติยศป่นปี้หมด การที่ผู้ใต้บังคับบัญชาทำผิด ไม่ได้หมายความว่า ผู้บังคับบัญชาจะทำผิดด้วย เพราะเรื่องเส้นทางการเงินทั้งหมดนั้นตนทราบหมดแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ต่อจากนี้ จะไม่ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์พูดอีกแล้ว ทนายความจะเป็นผู้พูดแทน ไม่ต้องกลัว งานนี้ผมเอาอยู่ และจะขอเปลี่ยนฉายาให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ใหม่ จาก "โจ๊กหวานเจี๊ยบ" เป็น "โจ๊กอัคนี" สื่อถึงเปลวเพลิงที่เผาทุกสิ่งทุกอย่าง เเละมีความเเข็งเเกร่ง
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า มอบหมายให้ ทนายอนันต์ชัย ดำเนินการยื่นคำร้องขอศาลไต่สวนการละเมิดอำนาจของศาลในการขอออกหมายจับและการขอออกหมายค้นของชุดปฏิบัติการกรณีเมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะหมายค้นที่มีการเข้าค้นบ้านที่ย่านวิภาวดีรังสิตนั้น ชุดปฎิบัติการไปขอหมายค้นจากศาลอาญารัชดา โดยไม่แจ้งศาลว่าเป็นที่พักของรอง ผบ.ตร. โดยอ้างว่าเจ้าของบ้านทั้ง 5 หลังดังกล่าวมีพลเรือนเป็นเจ้าของ ตนยอมรับว่าบ้านทั้ง 5 หลังนี้ชื่อของเฮียแต๋ม เป็นเจ้าของจริงแต่สิ่งที่ตนตั้งข้อสงสัย คือการออกหมายจับนายตำรวจติดตามตัวเอง หรือ พ.ต.ต.ชานนท์ ทราบว่ามีการออกหมายจับตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. และมีการออกหมายค้นในวันที่ 24 ก.ย. ซึ่งสารวัตรนนท์ ไม่ได้นอนพักที่บ้านในหมู่บ้านดังกล่าวแต่อย่างใด เจ้าตัวพักอยู่แฟลตตำรวจพญาไท ดังนั้นทำไมชุดจับกุมไม่เข้าจับกุมสารวัตรนนท์ ตั้งแต่วันศุกร์และวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ดำเนินการมาจับที่หน้าบ้านพักตนวันจันทร์ที่ 25 ก.ย.แทน จึงมองว่าเป็นลักษณะการแบ่งงานกันทำมีพฤติการณ์ร่วมกันปกปิดข้อเท็จจริงต่อศาลจากการขอหมายค้นและหมายจับดังกล่าว ถ้ามีอำนาจสอบสวนแล้วทำแบบนี้ต่อไปตำรวจจะทำงานยากขึ้น การทำแบบนี้นั้นงานสืบสวนจะเหนื่อยขึ้น เพราะศาลจะตรวจละเอียดขึ้นอนุมัติหมายจับหรือหมายค้นยากขึ้น เพราะกรณีนี้มีการหลอกศาล