รองเลขาธิการนายกฯ แจงงบ 30 ล้านเช่าเหมาลำนายกฯบินไปประชุมที่สหรัฐฯ ชี้ภริยาร่วมทริปด้วยมีภารกิจคู่สมรส ส่วนลูกสาวออกเงินเองไปดูแลคุณแม่
เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 66 น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีการเช่าเหมาลำเครื่องบินสายการบินไทยในภารกิจของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่สหรัฐอเมริกา ว่า ในฐานะที่รับผิดชอบด้านการนำเสนอและจัดหาพาหนะสำหรับการเดินทางไปภารกิจราชการต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี ขอชี้แจงทำความเข้าใจกรณีการเช่าเหมาลำเครื่องบินสายการบินไทยในครั้งนี้ เราได้เปรียบเทียบปัจจัยหลายๆ อย่าง สำหรับราคานั้นกองทัพอากาศเสนอมา 32 ล้านบาท ซึ่งวันที่กองทัพอากาศเสนอราคามายังไม่ได้คิดค่าน้ำมันที่สูงขึ้น ขณะที่เดิมการบินไทยเสนอมา 25 ล้านบาทด้วยซ้ำ แต่ต้องมาเพิ่มเป็น 30 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันสูงขึ้น ดังนั้นหากจะใช้เครื่องบินกองทัพอากาศ อาจราคาถึง 40 ล้านบาทก็เป็นได้
น.ส.นัทรียา กล่าวอีกว่า ราคาของกองทัพอากาศเสนอแพงกว่าการบินไทย และกองทัพอากาศไม่สามารถรับประกันได้ว่า เมื่อถึงเวลาเดินทางแล้ว หากกองทัพอากาศติดภารกิจขึ้นมาเขาไม่สามารถให้บริการเราได้ ก็จะเกิดปัญหา เราไม่สามารถจัดการภารกิจได้ทันเวลา ทั้งนี้ต้องเข้าใจว่าอาหารที่บริการบนเครื่องบินไม่ใช่อาหารทั่วไป ต้องผ่านการตรวจสอบต่างๆ ด้านความสะอาด เพื่อนำผ่านขึ้นมาเสิร์ฟบนเครื่องบินได้ จึงมีราคาไม่เท่ากับอาหารทั่วไปที่เราทาน ดังนั้นค่าอาหารที่คิดว่าเกือบ 1.5 ล้านบาท เฉลี่ย 50 คน รวมแล้วตกหัวละประมาณ 30,000 บาท ขาเดินทางไป-กลับ ก็ตกหัวละประมาณ 3,000 บาท ก็เป็นราคาปกติทั่วไป เหมาะสมกับราคาที่เสนอมา
น.ส.นัทรียา กล่าวอีกว่า ส่วนที่ภริยานายกฯ เดินทางมาด้วย เพราะทางสหรัฐเชิญคู่สมรสมาด้วย และมีภารกิจของคู่สมรส เช่น ดูศูนย์บริหารผู้สูงวัยของสหรัฐ เยี่ยมชมชุมชนไทยที่มีปัญหาด้านต่างๆ ซึ่งในส่วนนี้บุตรสาวของนายกฯ ชำระค่าบริการทุกอย่างเอง ไม่ว่าจะค่าเครื่องบินก็ชำระตามเกณฑ์ ค่าอาหาร ค่าระหว่างที่พักอยู่ที่นี่ ก็ใช้เงินส่วนตัว ไม่ได้ใช้เงินของส่วนราชการแม้แต่บาทเดียว ไปช่วยศึกษาปัญหาต่างๆ ปัญหาของผู้สูงวัยและช่วยดูแล ไม่ได้มีภารกิจใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับราชการหรือนายกฯ เรียกว่ามาดูแลคุณแม่และช่วยภารกิจของคุณแม่ด้วย ส่วนในภาคเอกชนนั้นไม่มีนั่งเครื่องมาด้วย เอกชนจะเดินทางมาของเขาเอง