"พิเชษฐ์" หากตกลงประธาน กมธ.ไม่ได้ต้องใช้วิธีจับสลาก

2023-09-19 14:32:05

"พิเชษฐ์" หากตกลงประธาน กมธ.ไม่ได้ต้องใช้วิธีจับสลาก

Advertisement

"พิเชษฐ์" ลั่นประธาน กมธ.ต้องจบในสัปดาห์นี้ หากตกลงกันไม่ได้ต้องใช้วิธีจับสลาก

เมื่อวันที่ 19 ก.ย.66 นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ยืนยันว่าสัปดาห์นี้จะต้องได้ข้อยุติเรื่องตำแหน่งประธาน คณะกรรมาธิการสามัญทุกคณะ โดยในวันพฤหัสบดี ที่21 กันยายนนี้ จะมีการหารือเพื่อหาข้อยุติอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้ได้ให้ไปหารือกันนอกรอบมาถึง 2 ครั้งแล้วและครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งตนได้บอกในที่ประชุมไปแล้วว่าให้เร่งประสานงานเจรจาให้ลงตัว ดังนั้นหากในวันที่ 21 ก.ย.ยังคุยกันไม่รู้เรื่องตนได้เตรียมกล่องไว้ 2 ใบ ใบหนึ่ง มี 8 หมายเลข คือ 8 พรรค ให้จับลำดับว่าใครจะได้จังสลากก่อน ขณะที่อีกกล่องหนึ่งมี 35 หมายเลขพร้อมชื่อกรรมาธิการ ใครจับได้ก็ได้เป็นประธานกรรมาธิการชุดนั้นไป โดยจับตามสัดส่วนของแต่พรรคที่จะได้ประธานกรรมาธิการตามที่ตกลงไว้

เมื่อถามว่า หากพรรคการเมืองไม่ยอมจะทำอย่างไร นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ใครจะยอมหรือไม่ยอมตนต้องรับผิดชอบ ในฐานะของสภาผู้แทนราษฎรคณะกรรมาธิการต้องเดินหน้าได้เพราะเป็นผลประโยชน์ของประชาชนและปัญหาของประเทศรอไม่ได้ ดังนั้นขออยู่บนความเป็นกลางและเป็นธรรม ตึงต้องรับดำเนิยการ เนื่องจากสมัยประชุมนี้เหลือเวลาเพียง 1 เดือน และจะเปิดอีกทีวันที่ 12 ธันวาคม ซึ่งสส.จะได้ไปทำงานในพื้นที่ แต่หากหวังจะเอาผลประโยชน์ของ พรรคและความคิดของตนเองเป็นที่ตั้งคงเป็นไปไม่ได้ซึ่งต้นบอกไปหลายครั้งแล้วและครั้งนี้ขอจับสลาก อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ยอมจับฉลากและเจรจากันไม่ได้ วันที่27 ก.ย.จะมีการตั้งกรรมาธิการฯในสภา และให้ไปโหวตกันในวันที่ 28 ก.ย.ที่มีการประชุมกรรมาธิการนัดแรก ซึ่งถือว่าแผนนี้เป็นขั้นเลวร้ายที่สุด แต่ก็เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย

ส่วนพรรคไหนที่มีปัญหานั้นนายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าพรรคไหนไม่ยอมทราบเพียงว่ามีปัญหากัน ในเมื่อมีวิปรัฐบาล มีวิปฝ่ายค้านแล้วยังไม่คุยกันตนก็ต้องทำตามหน้าที่ของตน จะคิดว่าจะรักษาผลประโยชน์ของตนเองและของพรรคนั้นคงเป็นไปไม่ได้เพราะประชาชนต้องมาก่อน และถ้าวันที่21 นี้จบลงได้ก็ไม่ต้องมีการจับฉลากและการโหวต ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุมตนมีเวทีให้

นายพิเชษฐ์ ยังกล่าวถึงผลการเลือกตั้งจังหวัดระยองที่พรรคก้าวไกลได้สส.เพิ่มอีก 1 คน และจะส่งผลต่อการเพิ่มประธานกรรมาธิการของพรรคก้าวไกลด้วย ว่า ขณะนี้จำนวนสส.มี 499 เนื่องจาก กกต.ยังไม่รับรอง ก็ต้องยึดผลอย่างเป็นทางการ และหากยังคุยกันไม่ได้ แล้วเกิดมีสส.ออกจากพรรคก้าวไกลไปอีก 1 คน ทำให้สส.ของพรรคก้าวไกลหายไป 1 คน อยู่ดี แต่การเสนอชื่อประธานกรรมาธิการก็ต้องจบในวันที่27 กันยายน เพื่อประชุมนัดแรกวันที่28 กันยายน ดังนั้นสัดส่วนก็คือส.ส. ณ ปัจจุบัน

ส่วนที่มีกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคก้าวไกลมีแผนจะขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ออกจากพรรคเพื่อรักษาตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 นั้น นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า เป็นความคิดของพรรคการเมือง ซึ่งต้องแล้วแต่ว่าแต่ละพรรตจะมีกลยุทธ์หรือเกมการเมืองอย่างไร ถือเป็นสิทธิของพรรคนั้น ส่วนในแง่ความสง่างามก็แล้วแต่สังคมจะตัดสิน เมื่อถามว่าประธานกรรมาธิการคณะไหนที่ไม่ลงตัว นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่มีพรรคไหนบอก ต่างคนต่างนิ่ง แต่ตนขอยืนยันว่าต้องทำตามหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของประชาชน