"บิ๊กโจ๊ก"พบ ตร.ร่วมงานเลี้ยง "กำนันนก" 28 นาย พลเรือน 27 คน ลั่นไม่เกรงใจ ถึงใครสอบหมดทำความจริงให้ปรากฎ
เมื่อคืนวันที่ 11 ก.ย.66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าคดีนายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ "หน่อง" อายุ 45 ปี ลูกน้องของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ "กำนันนก" อายุ 35 ปี ผู้กว้างขวางใน จ.นครปฐม ก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. กลางงานเลี้ยงในบ้านพักของกำนันนกเสียชีวิต และกระสุนยังถูก พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. บาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 6 ก.ย.66 ว่า เดิมมีพลเรือนบุคคลภายนอก 10 คนมาร่วมงาน ล่าสุดเพิ่มมาอีก 17 คน รวมเป็น 27 คน และมีตำรวจเพิ่มมาอีก 2 นาย จาก 26 เป็น 28 นาย ส่วนเรื่องการเปิดเซิร์ฟเวอร์ต้องใช้เวาคาดว่าในวันพฤหัสฯนี้ อาจจะกู้ภาพจากเซิร์ฟเวอร์ได้ เพราะไม่ได้รับความเสียหายอะไร ฉะนั้นในส่วนของเรื่องคดีการมัดตัวดำเนินคดีกับกำนันนกไม่มีปัญหาที่น่าหนักใจ สิ่งสำคัญคือต้องไล่ความเชื่อมโยงของกำนัน ทั้งเรื่องธุรกิจการรับเหมาก่อสร้าง การทำออนไลน์ จะต้องหาความจริงให้ได้ ถ้าความผิดมูลฐานก็จะดำเนินการมาตรการยึดทรัพย์ ตรวจสอบภาษี ความผิดฐานเลี่ยงภาษีอากรและยึดทรัพย์ร่วมกับ สำนักงานการปราบปรามการฟอกเงิน ขณะนี้พบว่ามีตำรวจทั้งหมด 28 นาย ส่วนพลเรือนอาจมีเพิ่ม วันนี้เราสอบปากคำพยานให้ครบและรอการเปิดเซิร์ฟเวอร์ จะทราบอย่างชัดเจนว่าใครทำอะไร จึงสามารถตั้งข้อหาได้ ตำรวจในที่เกิดเหตุยังให้ปากคำที่ไม่เป็นความจริง แต่ชุดพนักงานสอบสวนจากกองปราบปรามจะหาความจริงเอง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องของ อบจ. ในการรับงานนั้น ต้องดูเอกสารควบคู่กัน และประสาน สตง. กรมบัญชีกลาง ถึงใครก็ต้องสอบ วันนี้จะไม่เกรงใจใคร จะทำความจริงให้ปรากฏ และทางนายกรัฐมนตรีให้ความเป็นห่วง เน้นการปราบปรามอิทธิพลในทุกพื้นที่ คดีทุกคดีนั้นเราเชิญพยานมาสอบปากคำ ถ้าให้การเท็จก็ต้องโดนดำเนินคดีในเรื่องการแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน หลังจากนี้จะมีหมายจับเพิ่มแน่นอน แต่ต้องรอพยานหลักฐาน แต่ขอให้ตำรวจทำงานก่อน จะไล่ทุกประเด็นที่สังคมสงสัย ทั้งเรื่องส่วยสติ๊กเกอร์ด้วย
รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผบก.ภ.จว.นครปฐม และ พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ที่ถูกย้ายไปประจำ ศปก.ภ.7 ถือเป็นการหย่อนยาน ที่ปล่อยให้กลุ่มมาเฟียและผู้มีอิทธิพล มาทำเรื่องให้เกิดความเสียหาย แม้กระทั่งปืนยังต้องให้ตำรวจซื้อมาให้ใช้ แต่ตำรวจกลับไปรับใช้เอง ถ้าหากไม่ทำตัวเป็นไม้ค้ำยัน ให้กลุ่มเหล่านี้คงไม่มีเรื่องเสียหายเกิดขึ้น
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยด้วยว่า ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุที่บ้านของ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก. 2 บก.ทล. ที่ยิงตัวเองจนเสียชีวิต โดยในที่เกิดเหตุ มีสำนักงานกองพิสูจน์หลักฐาน และนิติเวช มาเก็บเขม่าดินปืนเพื่อทราบผลการตาย ทั้งนี้จะสรุป ว่าการตายเกิดจากอะไร เพราะวันนี้เห็นจากที่เกิดเหตุว่าเป็นการยิงตัวตาย แต่จะไล่กล้องจากที่เกิดเหตุ จะเห็นสภาพของการเสียชีวิตและสิ้นประเด็นสงสัย เรื่องของสาเหตุจากความเครียด ตำรวจทุกคนที่ถูกดำเนินคดีก็ต้องมีความเครียดทุกคน วันนี้กำชับผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นให้กลับดูแลลูกน้องตนเอง ถ้าหากเกิดความเครียดให้เข้าบำบัดโรงพยาบาลตำรวจ หรือโรงพยาบาลในพื้นที่ เพราะเรามีมาตรการอยู่แล้วสำหรับ ทั้งนี้กรณีดังกล่าวมีตำรวจเสียชีวิตถึง 2 นาย การตรวจค้นต้องมีแน่ แต่ยังบอกเป้าหมายไม่ได้ ผมจะติดตามทุกคดีในเรื่องนี้ทุกวันเป็นเรื่องการค้นหาหลักฐาน จะทำให้เร็ว รอบคอบ ความจริงจะได้กระจ่าง
เมื่อถามว่า ตำรวจระดับ พ.ต.อ. ตำแหน่ง ผกก. ข่มขู่นักข่าวว่าจะถามอะไรมากมาย ระวังกระสุนจะไปถูกเอ็ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบ แต่ถ้าเป็นการข่มขู่ให้แจ้งความดำเนินคดี และให้มาแจ้งกับตนได้เลย