เปิดประวัติ "ผกก.เบิ้ม" พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล. ปลิดชีพตัวเอง
จากกรณี พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (ผกก.2 บก.ทล.) ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองในบ้านพักย่านปทุมธานี ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากความเครียด ประเด็นมีภาพปรากฏไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้าน นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ "กำนันนก" ก่อน พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.กก.2 บก.ทล. หรือ"สารวัตรแบงค์" ถูกยิงเสียชีวิต
สำหรับประวัติของ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ผู้กำกับเบิ้ม ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 39 และเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 55 ผ่านการฝึกอบรมหลายหลักสูตรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่น หลักสูตรการอารักขาบุคคลสำคัญ และ หลักสูตรกระโดดร่มใหม่แบบกระตุกเอง รวมทั้งผ่านการทำงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น งานสืบสวน สอบสวน และงานป้องกันปราบปราม
ทางเว็บไซต์ police news varieties ได้เคยลงประวัติเอาไว้ ขณะเป็น ผกก.ปพ.บช.ก. (กองกำกับการต่อต้านการก่อการร้าย กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง) ดังนี้
พ.ต.อ.วชิรา หรือ "ผู้กำกับเบิ้ม" เป็นลูกชายคนโตของอดีตนายทหารม้า ม.พัน7 ค่ายพระยาพิชัยดาบหัก จ.อุตรดิตถ์ ที่ไปพบรักครูสาว จ.น่าน โตมากับครอบครัวทหาร ความฝันวัยเด็กอยากสวมเครื่องแบบตามพ่อ มุสอบเข้าเตรียมหาร รุ่น 39 เหล่าตำรวจ นรต.รุ่น 55
เรียนจบไปลงที่ศรีสะเกษ บรรจุครั้งแรก ปี 2545 ลงที่กิ่ง อ.ศรีรัตนะ เป็น นรต.ชุดแรกของโรงพัก มีเพื่อนไปด้วย 3 คนแรก ตอนนี้คนหนึ่ง เป็น ผกก.อยู่ที่กำแพงเพชร อีกคนเป็นรอง ผกก.อยู่ที่ศรีสะเกษ
จากนั้นเป็นพนักงานสอบสวน อยู่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) 7 ปี ได้เรียนรู้วิชาจาก พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ รองผู้การ อยู่กับแกจนเกษียณ ที่ผู้การศูนย์สืบ บช.น. จากนั้นไปเป็น สว.อยู่ที่ ปปป. หลังจากพี่ยนต์ เกษียณแล้ว พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ เพื่อนร่วมรุ่นสนิทกันตั้งแต่ที่โรงเรียนนายร้อย ชวนมาเป็น สารวัตรคอมมานโด ที่กองปราบฯ
ไปอยู่กับ พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น รอง ผกก.รักษาราชการแทน ผกก.เป็น รรท.อยู่ ก็ไม่รู้หรอกว่า พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ เป็นใคร มาเป็น สว.ที่นี่ปีหนึ่ง พอพี่ต่อขึ้นเป็น ผกก. ผมก็ขึ้นรองผกก.ปพ.ในตำแหน่งแกเลย
อายุ 39 ปี ขอไปเรียนหลักสูตรต่อต้านก่อการร้ายที่ค่ายนเรศวร 261 รู้ว่าหนัก แต่คิดว่าผมทำได้ ผมนักบอล ผมซ้อมบอลมาตลอดชีวิต รู้ว่าการวิ่ง การอะไร มันต้องทำยังไง ไปฝึกก็เป็นนายตำรวจที่ยศสูงสุด อายุเยอะที่สุดตอนนั้น แต่พอไป ก็เป็นหัวหน้าทีม เขาเรียกว่า 01 นเรศวร รุ่น 15 กว่าจะจบหลักสูตร เหนื่อยมาก เหนื่อแทบขาดใจ ฝึกตอนนั้น 18 สัปดาห์ ทุกวันต่อเนื่อง ด้วยความเข้มข้น มีสัปดาห์หนึ่ง คือสัปดาห์พิสูจน์ตัวเอง เขาเรียกว่า การปฏิบัติการภายใต้สภาวะพิเศษ เคลื่อนที่ตลอดเวลา 120 ชม. ไม่หลับไม่นอน คือ 5 วัน 4 คืน บางคนก็ช็อก บางคนก็ฮีทสโตรก บางคนความดันขึ้น แต่ว่าตอนนั้นร่างกายมันพีคแล้วไง ไหลไปเป็นซอมบี้เลย เหมือนกับผ่านเรื่องนี้มาได้ ในปีเดียว คือทั้งนเรศวร 261 แล้วโดดร่มแบบกระตุกเอง สกาย พร้อมกันมันก็สุดนะ ชีวิตจากสืบสวน มาเป็นแบบนี้ พลิกไปเลยนะ
มาเป็น ผกก.อยู่ที่นี่ โตอยู่ ปพ.ตลอด อยู่กองปราบ 2 ปี พอเปลี่ยนจากกองกำกับ เป็นกองบังคับการ ตอนนั้นเป็นกองบังคับการถวายความปลอดภัย แล้วถึงมาเป็นปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 แล้วเป็นกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ ก็เป็นรอง ผกก.อยู่ที่นี่ แล้วขึ้น ผกก.วิเคราะห์ข่าว ที่ ปพ.นี่แหละ
โดยตำแหน่งสุดท้ายคือ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (ผกก.2 บก.ทล.)
ขอบคุณข้อมูล police news varieties