นายกรัฐมนตรีพูดคุยกับชาวนาหาหนทางลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เล็งใช้เกษตรแม่นยำ เพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 8 ก.ย.66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายอนุชา นาคาสัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการลงพื้นที่รับฟังปัญหาภัยแล้งและปัญหาทางด้านการเกษตรจากพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น อุดรธานีและหนองคาย ได้แวะพูดคุยกับนายอุดร พื้นทอง อายุ 65 ปี ชาวบ้านกุดเชียงมี อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่นซึ่งอยู่ระหว่างการตัดหญ้าและหว่านปุ๋ยในนาข้าว
โดยนายกรัฐมนตรีได้สอบถามนายอุดร ถึงการทำนาโดยทั่วไป การตรวจสอบดินและการใช้ปุ๋ยในการทำนาปลูกข้าว ซึ่งนายอุดร ได้แจ้งถึงปัญหาราคาปุ๋ยที่อยู่ในระดับที่สูง รวมไปถึงราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับที่สูง ทำให้ต้องลงทุนสูงไปด้วย ตอนนี้ลำบากมาก เพราะทำนาแล้วขาดทุน เพราะราคาข้าวตกต่ำ เลี้ยงโคก็ขาดทุน ไม่สามารถขายได้ ส่วนเรื่องน้ำก็แล้ง ทั้งๆที่ปีที่แล้วพื้นที่ในส่วนนี้น้ำท่วมสูง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการเปิดตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น อีกทั้งยังมีแนวคิดที่จะเพิ่มผลผลิตข้าวต่อไร่ ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีได้หารือกับ นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ในเรื่องของวิธีการเพิ่มผลผลิต ทั้งเรื่องของพันธุ์ข้าว วิธีการปลูกและการดูแลใส่ปุ๋ยบำรุงดิน
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นหนทางเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรทางหนึ่ง อาจต้องดูเรื่องเกษตรแม่นยำ ที่จะต้องมีการทดสอบดินก่อนว่ามีอะไรแล้วขาดอะไร ซึ่งแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกันในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ หากมีการให้ความรู้เกษตรกร และมีความแม่นยำเกิดขึ้น การใช้ปุ๋ยอาจจะลดน้อยลง ซึ่งจะทำให้รายจ่ายลดลง รายได้สุทธิก็จะสูงขึ้น ซึ่งส่วนนี้เป็นเรื่องที่เน้นย้ำมาตลอด
โดย นายกรัฐมนตรีได้พูดกับ นายอุดร ด้วยว่า ขอรอก่อน เดี๋ยวเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทกำลังจะมา อีกทั้งยังมีนโยบายเกี่ยวกับการพักชำระหนี้เกษตรกร และนโยบายเกี่ยวกับการลดค่าน้ำมัน ค่าไฟ ด้วย