นายกฯ จีนขึ้นรถไฟหัวกระสุนสู่ "บันดุง" สถานที่จัดประชุมครั้งปวศ.ของโลกที่สาม

2023-09-07 18:25:35

นายกฯ จีนขึ้นรถไฟหัวกระสุนสู่ "บันดุง" สถานที่จัดประชุมครั้งปวศ.ของโลกที่สาม

Advertisement

จาการ์ตา, 7 ก.ย. (ซินหัว) — เมื่อวันพุธ (6 ก.ย.) หลี่เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้ทดลองนั่งรถไฟหัวกระสุนบนทางรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมต่อกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย กับเมืองบันดุง ศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของอินโดนีเซีย และอดีตสถานที่จัดการประชุมบันดุง (Bandung Conference) ครั้งสำคัญในปี 1955

การประชุมครั้งประวัติศาสตร์ดังกล่าว มีกลุ่มประเทศในเอเชียและแอฟริกาหลายสิบแห่งแสดงความแข็งแกร่งร่วมกัน ท่ามกลางบรรยากาศอันตึงเครียดของสงครามเย็นระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพโซเวียต โดยหลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ 5 ประการ ซึ่งจีนเป็นฝ่ายนำเสนอ ถูกขยับขยายเป็น 10 ประการ และช่วยก่อรากสร้างฐานสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยใหม่

หลี่ที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดจีน-อาเซียน ครั้งที่ 26 เมื่อช่วงเช้าวันพุธ (6 ก.ย.) ได้กล่าวถึงหลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ 5 ประการ ชี้ว่าจีนและอาเซียนได้กระชับความร่วมมือเชิงปฏิบัติด้านความมั่นคงแบบดั้งเดิมและแบบไม่ดั้งเดิม และยึดถือหลักการดังกล่าว รวมถึงเป้าประสงค์ของสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (TAC)

จีนเข้าร่วมสนธิสัญญาฯ อย่างเป็นทางการในปี 2003 กลายเป็นแบบอย่างแก่ประเทศอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาเซียนปฏิบัติตามและเข้าร่วมสนธิสัญญาฯ ซึ่งกำเนิดขึ้นในปี 1976 และรวบรวมหลักการสากลของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและความร่วมมือฉันมิตรในหมู่ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

หลี่เรียกร้องว่าจีนและอาเซียนต้องแสวงหาสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค พร้อมกับจัดการข้อเห็นต่างและข้อพิพาทอย่างเหมาะสม โดยจีนและอาเซียนประสบผลสำเร็จในการกรุยทางอันถูกต้องของการเป็นเพื่อนบ้านและมิตรภาพอันดีในระยะยาว รวมถึงการพัฒนาและความมั่งคั่งร่วมกัน ยามโลกเผชิญการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยพานพบมาก่อนในรอบศตวรรษ

ณ การประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 26 หลี่กล่าวว่ากลุ่มประเทศอาเซียนบวกสาม ตลอดจนทุกประเทศในเอเชีย มีหลายสิ่งหลายอย่างร่วมกัน ทั้งบ้านหลังเดียวกัน ผลประโยชน์ร่วมกัน และโอกาสร่วมกัน

หลี่กล่าวเตือนให้หลีกเลี่ยงการก่อสงครามเย็นครั้งใหม่ ระบุว่าสำหรับการกำกับควบคุมข้อแตกต่างอย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญตอนนี้คือคัดค้านการเลือกข้าง คัดค้านการเผชิญหน้าแบบกลุ่ม และคัดค้านสงครามเย็นครั้งใหม่ เพื่อรับประกันว่าข้อเห็นต่างและข้อพิพาทระหว่างประเทศจะถูกจัดการอย่างเหมาะสม

ข้อเห็นต่างและข้อพิพาทระหว่างประเทศอาจเกิดขึ้นจากความเข้าใจผิด ผลประโยชน์ที่แตกต่าง หรือการแทรกแซงจากภายนอก ซึ่งไม่ว่าด้วยสาเหตุใด สิ่งสำคัญคือเผชิญกับปัญหาอย่างตรงไปตรงมา ขจัดความเข้าใจผิด และควบคุมข้อแตกต่าง โดยวิธีขจัดความเข้าใจผิดที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือเสริมสร้างการแลกเปลี่ยน เพิ่มความเข้าใจและความไว้วางใจซึ่งกันและกันผ่านการสื่อสารอย่างจริงใจ

จีนมุ่งมั่นส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคอย่างลึกซึ้งเสมอมา โดยรายการแผนริเริ่มความร่วมมือของจีนสำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน ระบุว่าความร่วมมือในอนาคตระหว่างสองฝ่ายจะครอบคลุมด้านใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น เทคโนโลยีดิจิทัล ยานยนต์พลังงานใหม่ พลังงานแสงอาทิตย์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI)

โจเซฟ แมตธิวส์ อาจารย์อาวุโสของมหาวิทยาลัยนานาชาติเบลเทในกรุงพนมเปญของกัมพูชา กล่าวว่าจีนมุ่งพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนทางการค้ากับอาเซียนเพิ่มขึ้น และมุ่งแบ่งปันความรู้ทางดิจิทัลและเทคโนโลยีแก่อาเซียน ทำให้นานาประเทศก้าวสู่ความเป็นเลิศในการพัฒนาเศรษฐกิจ

การประชุมบันดุงมีนัยสำคัญยิ่งยวด เพราะสะท้อนความไม่พอใจของกลุ่มประเทศเอเชียและแอฟริกาที่มีต่อเหล่ามหาอำนาจตะวันตก ผู้ซึ่งขาดแคลนความเต็มใจจะมีส่วนร่วมในการปรึกษาหารือประเด็นสำคัญต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อพวกเขาโดยตรง

ไจ๋คุน รองคณบดีสถาบันอาณาบริเวณศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่งของจีน กล่าวว่ากลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียตะวันออกต่อสู้เพื่อเอกราช การพัฒนาตนเอง และการพัฒนาโดยรวม

รายงานจากบลูมเบิร์กระบุว่าอินโดนีเซียยินดีต้อนรับการลงทุนในโรงงานแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าจากจีนมากกว่าจะร้องขอจากสหรัฐฯ โดยเมื่อเดือนพฤษภาคม ลูฮูต ปันไจตัน รัฐมนตรีอาวุโสของอินโดนีเซีย กล่าวว่าเราไม่สามารถเฝ้าร้องขอจากคุณได้อีก คุณอาจโกรธที่เราทำการค้ากับประเทศอื่นๆ แต่เป็นเพราะเราต้องเอาตัวรอด

ไจ๋กล่าวว่ากรอบความร่วมมือเอเชียตะวันออกนั้นมีมาก่อนกลุ่มซีกโลกใต้ (Global South) และกลายเป็นกรอบการทำงานและรากฐานอันมั่นคงหลังจากพัฒนามานานกว่าสองทศวรรษ ทั้งยังมีประเทศพัฒนาแล้วอย่างออสเตรเลียและนิวซีแลนด์รวมอยู่ด้วย

“วันนี้ ภูมิทัศน์ การพัฒนาและความมั่นคงระหว่างประเทศ ยังคงเป็นสองเสาหลักของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยวิธีการที่เอเชียแปซิฟิกจะรักษาการเติบโตและเสถียรภาพในภูมิภาคนั้นจะมีส่วนกำหนดทิศทางการพัฒนาและความมั่นคงของทั้งโลกเป็นอย่างมาก”


(แฟ้มภาพซินหัว : หลี่เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 26 ในกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย วันที่ 6 ก.ย. 2023)


(แฟ้มภาพซินหัว : ลานจอดรถไฟความเร็วสูงใกล้กับโรงงานสำหรับทางรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุง ในเมืองบันดุง จังหวัดชวาตะวันตกของอินโดนีเซีย วันที่ 20 ก.ค. 2023)


(แฟ้มภาพซินหัว : โลโก้การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 43 บนยานยนต์ไฟฟ้า รุ่นอู่หลิง แอร์ สำหรับการประชุมสุดยอดฯ ในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย วันที่ 6 ก.ย. 2023)