แคนเบอร์รา, 7 ก.ย. (ซินหัว) — รายงานเกี่ยวกับสวัสดิการและความเป็นอยู่ของชาวออสเตรเลียจากสถาบันสุขภาพและสวัสดิการแห่งออสเตรเลีย ระบุว่าชีวิตความเป็นอยู่ของชาวออสเตรเลียพัฒนาดีขึ้น หลังจากผ่านพ้นจุดสูงสุดของการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
รายงานระบุว่าระดับความพึงพอใจในชีวิตและความทุกข์ทางจิตใจปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับรายงานฉบับก่อนหน้านี้ที่เผยแพร่ขณะเกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 เมื่อเดือนกันยายน 2021 แต่ยังไม่ได้กลับสู่ระดับในช่วงก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่
แมตธิว เจมส์ รองซีอีโอของสถาบันฯ กล่าวว่าตอนนั้นชาวออสเตรเลียจำนวนมากต้องอยู่กับการล็อกดาวน์ มีประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปเพียงร้อยละ 44.7 ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดส และเด็กอายุ 12-15 ปี ส่วนใหญ่ยังไม่ผ่านเกณฑ์รับวัควีนป้องกันโรคโควิด-19
อย่างไรก็ดี เจมส์เสริมว่าปัจจุบันชีวิตของชาวออสเตรเลียส่วนมากกลับสู่สภาวะปกติกันแล้ว แต่บางสิ่งบางอย่างอาจแตกต่างจากช่วงก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่
รายงานฉบับนี้อ้างอิงผลสำรวจรายไตรมาสระยะยาวที่จัดทำโดยคณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ซึ่งค้นพบว่าสัดส่วนประชากรที่รู้สึกโดดเดี่ยวในบางเวลาลดลงจากร้อยละ 46 ในเดือนเมษายน 2020 เหลือร้อยละ 37 ในเดือนสิงหาคม 2023
ผลสำรวจข้างต้นพบว่าความพึงพอใจในชีวิตโดยเฉลี่ยของชาวออสเตรเลียลดลงจาก 6.9 เต็ม 10 ในเดือนมกราคม 2020 เหลือ 6.5 เต็ม 10 ในเดือนสิงหาคม 2021 และกลับมาเพิ่มขึ้นเป็น 6.8 เต็ม 10 ในเดือนมกราคม 2023 แต่ลดลงเหลือ 6.6 ในเดือนสิงหาคม 2023
สถาบันฯ ระบุว่ารัฐบาลออสเตรเลียใช้งบประมาณ 2.12 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 4.81 ล้านล้านบาท) กับการบริการสวัสดิการและการจ่ายเงินในปีงบประมาณ 2021-22 ซึ่งลดลงจาก 2.31 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 5.23 ล้านล้านบาท) ในปีงบประมาณ 2020-21 เนื่องจากมาตรการสนับสนุนอันเกี่ยวกับโรคระบาดสิ้นสุดลง
(แฟ้มภาพซินหัว : ประชาชนถ่ายภาพที่เทศกาลคริสต์มาสเดือนกรกฎาคม ในกรุงแคนเบอร์รา เมืองหลวงของออสเตรเลีย วันที่ 2 ก.ค. 2023)