"ชัยธวัช"เผย "ก้าวไกล" เตรียม 30 ขุนพลอภิปรายนโยบายรัฐบาลครอบคลุมทุกมิติ บอกเท่าที่ดูร่างเบื้องต้นรู้สึกผิดหวัง
เมื่อวันที่ 7 ก.ย.66 ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการแถลงนโยบายรัฐบาล ระหว่างวันที่ 11 - 12 ก.ย.นี้ ว่า พรรคก้าวไกลจัดผู้อภิปรายไว้ 30 คน แต่น่าเสียดายที่อภิปรายแค่ 2 วัน หากเป็น 3 วันจะชัดเจนลงลึกได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม พรรคจะพยายามพูดให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง โดยที่ไม่มีการพุ่งเป้าไปที่ด้านใดด้านหนึ่ง แต่จะตั้งข้อสังเกตว่านโยบายที่ออกมาสะท้อนเนื้อแท้รัฐบาลชุดนี้อย่างไร เท่าที่เห็นตัวร่างนโยบายของรัฐบาลมีลักษณะเป็นคำกว้างๆ หลายเรื่องคลุมเครือชวนสงสัย มีไม่กี่กรณีที่เป็นรูปธรรมชัดเจน การอภิปรายจึงต้องถามถึงรายละเอียดในมาตรการนั้นๆ เพราะหลายมาตรการไม่มีตัวชี้วัด และกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน ซึ่งพรรคก้าวไกลจะทำการบ้านเต็มที่ในเวลาที่มีอยู่
ต่อข้อถามว่า นโยบายรัฐบาลจะเป็นความหวังให้ประชาชนได้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เบื้องต้นเท่าที่อ่านค่อนข้างผิดหวังในคำแถลงนโยบาย แต่คงต้องให้โอกาสรัฐบาลใหม่ได้ทำงานจริงก่อน
เมื่อถามว่า จะนำร่างที่เคยศึกษากับ 8 พรรคร่วมมานำเสนอด้วยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ส.ส.พรรคก้าวไกลจะมีประเด็นที่คิดว่าไม่มีอยู่ในนโยบายก็จะนำส่วนนี้เสนอด้วย และนโยบายที่พรรคแกนนำอย่างพรรคเพื่อไทยเคยพูดไว้ แต่ดูเหมือนบางส่วนหายไป และไม่เหมือนเดิม คงมีคำถามที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี บางท่านต้องตอบ เมื่อถามว่า สมการสลายความขัดแย้งจะมีพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เราไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการปรองดอง สลายขั้ว หรือจับขั้วกันใหม่ ซึ่งลักษณะทางการเมืองสะท้อนผ่านนโยบาย โดยจะเห็นว่ามีความตั้งใจใช้คำที่คลุมเครือ และมีความเกรงใจกันผ่านนโยบาย แน่นอนว่าการแถลงนโยบายไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่การให้เวลา 2 วัน ถือว่าน้อยด้วยซ้ำ แต่ก็ยังดีกว่า 1 วัน ก็ต้องขอบคุณรัฐบาล ทั้งนี้ ทุกฝ่ายควรช่วยกันอ่านโดยละเอียด วิพากวิจารณ์ตั้งคำถามได้ และหวังว่าฝ่ายรัฐบาลจะทำให้การอภิปรายราบรื่น
เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการเจรจาตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร เป็นอย่างไรบ้าง นายชัยธวัช กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเริ่มพูดคุยกับหลายพรรคแล้ว รวมถึงพรรคเพื่อไทยก็มีการประสานงานกัน แต่ยังเหลืออีกหลายกมธ. เพราะที่พูดคุยกันยังไม่ได้คำตอบ เช่น กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) ก็ยังไม่ชัดเจน เพราะพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย มีความประสงค์เหมือนกัน ซึ่งหวังว่าแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทยจะเปิดโอกาสให้ กมธ.ป.ป.ช. เป็นกลไกตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล ก็น่าจะสง่างามมากกว่า
เมื่อถามถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล นำอาหารกลับบ้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า ในพรรคคงต้องกำชับกัน เนื่องจากพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านหลัก เป็นธรรมดาที่จะถูกจับจ้องโจมตี ซึ่งเป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกลเอง ที่จะต้องดูความเหมาะสม แต่การนำเรื่องดังกล่าวมาโจมตีพรรคก้าวไกล ก็สะท้อนว่าไม่มีอะไรให้โจมตีพรรคก้าวไกลจึงนำเรื่องนี้มา แต่ก็ไม่เป็นไร สส.ทุกคนต้องถูกตรวจสอบไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ เรื่องอาหารบางวันมีคนมาประชุมน้อยอาหารก็เหลือมาก พนักงานห้องอาหารยังเตรียมถุงขอให้สส.ช่วยเอากลับบ้านไป แต่ยืนยันโดยหลักการโดยรวมไม่ว่าสส.คนไหนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมก็ตรวจสอบได้
ต่อข้อถามว่า พรรคก้าวไกลถูกโดดเดี่ยวหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ในแง่ความสัมพันธ์การทำงานร่วมกันในสภาส่วนบุคคลไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อไหร่ที่เป็นประเด็นทางการเมือง เป็นผลประโยชน์ของแกนนำพรรค ต้องยอมรับว่าบรรยากาศจะตึงเครียด และยอมรับว่าฝ่ายค้านมีจำนวนน้อย แต่เราไม่โดดเดี่ยวไม่เหงา