นายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุน ยกระดับวงการกีฬา คืนรอยยิ้มให้คนไทย หลังประชุม ครม. นัดแรกเตรียมผลักดันนโยบายดี ๆทันที รับปากเร่งแก้ปัญหาค้างจ่าย อัดฉีดสมาคมกีฬาที่ประสบความสำเร็จได้งบประมาณสูง
เมื่อวันที่ 4 ก.ย.66 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง พร้อมด้วย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับนายพิมล ศรีวิกรม์ ประธานที่ปรึกษานโยบายด้านกีฬาพรรคเพื่อไทย ในฐานะนายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ผู้บริหารสมาคมและนักกีฬาจากสมาคมกีฬาเทควันโดฯ เพื่อแลกเปลี่ยน สนับสนุนและยกระดับวงการกีฬาไทย ทั้งนี้สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยได้มอบเสื้อทีมชาติไทยให้กับนายกรัฐมนตรีในการพบกันครั้งนี้ด้วย
นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ว่า ถ้ากีฬาไทยดี จะนำรอยยิ้มมาสู่คนไทยทุกคน โดยสุภาพสตรีที่ยืนข้างผม (น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ) เป็นผู้หญิงตัวเล็กใจเย็นเข้าใจวงการกีฬา เมื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วประชุม ครม.นัดแรกจะผลักดันนโยบายดีๆที่ได้รับมาและจะทำได้ทันที
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภายหลังการประชุม ครม.นัดแรกก็คงจะเริ่มการพิจารณาดำเนินการในส่วนของกีฬาต่างๆ ได้ โดยเฉพาะการพิจารณาเรื่องเงินค้างจ่ายในเรื่องกองทุนกีฬา แม้เอเชียนเกมส์ 2023 จะเริ่มแล้ว เงินค้างจ่ายอยู่เป็นเรื่องใหญ่ นอกจากนี้ยังจะผลักดันให้สมาคมกีฬาที่ประสบความสำเร็จสูง จะได้งบประมาณที่สูง ส่วนสมาคมเล็กๆ จะทำให้สมาคมนั้นมีความสามารถ โดยจะสนับสนุนด้านกีฬาใหญ่ๆ ด้วย
ส่วนกรณีที่มีการฟ้องการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เรื่องค้างจ่ายเงินสมาคมกีฬานั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กำลังอยู่ระหว่างรับฟังข้อมูลอยู่ เพื่อจะหาทางแก้ไขต่อไป ซึ่งขอให้มีการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อน
นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะสามารถเดินทางไปรับชมฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ 2023 ที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 7 ก.ย.และ วันที่ 10 ก.ย.หรือไม่ เพราะในวันที่ 12-13 ก.ย. มีกำหนดการเดินทางไปร่วมประชุมใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ด้วย จึงไม่แน่ใจว่าจะสามารถไปชมฟุตบอลคิงส์คัพได้หรือไม่ แม้จะชอบดูฟุตบอลและอยากให้กำลังใจอยู่แล้ว ส่วนเอเชียนเกมส์ก็หวังผลงานของไทยจะดีกว่าที่ผ่านมา แต่ยังเป็นในเรื่องเงินสนับสนุน แต่วันนี้ต้องขอรับฟังข้อมูลก่อนและขอเป็นกำลังใจให้
ด้านนายเลิศศักดิ์ กล่าวถึงฟุตบอลไทยจะไปฟุตบอลโลกได้หรือไม่ว่า นายกรัฐมนตรีอยากให้ฟุตบอลไทยไปฟุตบอลโลก โดยต่อไปจะมีโครงการฟุตบอลไทยไปบอลโลกไม่ใช่ความฝัน เชื่อว่าการสร้างเยาวชนเพื่อรองรับให้ทีมชาติไทยเข้มแข็งไปบอลโลก คือหัวใจสำคัญ และจะต้องสร้างฟุตบอลลีกให้เข้มแข็งด้วย อย่างฟุตบอลทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี แม้ล่าสุดจะไม่ได้เข้าชิงชนะเลิศ แต่ก็ยังเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น ให้รอดูผลงานของนายกรัฐมนตรีก่อนและเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีจะทำได้