นายกรัฐมนตรีพูดคุยหารือ รมต.เพื่อไทยลั่นเป็นรัฐบาลของประชาชน ขอเทหมดหน้าตักในการทำงานครั้งนี้
เมื่อ เวลา 12.00 น.วันที่ 4 ก.ย.66 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ร่วมพูดคุยก่อนรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกับรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นางสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศ นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบาย พรรคเพื่อไทย
นายเศรษฐา กล่าวว่า ถือเป็นโอกาสดีที่ได้พูดคุยกันกับคณะรัฐมนตรีก่อนการเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ในวันพรุ่งนี้ ยืนยันว่าเราเป็นรัฐบาลของประชาชน ทำงานร่วมกันกับพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 11 พรรค โดยในรัฐบาลนี้พรรคเพื่อไทย ขอเทหมดหน้าตักในการทำงานครั้งนี้ ยืนยันว่าการเข้ามาทำหน้าที่ เรามาทำงานเพื่อประชาชนและดูแลบ้านเมือง แต่ละนโยบายของพรรคเพื่อไทย ถูกคัดสรรมาอย่างดี เราจะต้องทุ่มเทการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยตระหนักดี ภายใต้เวลาและขีดจำกัดของงบประมาณ แม้มีความสำคัญไม่แพ้กัน แต่ไม่ต้องการให้งบประมาณ เวลา หรือข้อจำกัดด้านกฎหมาย เข้ามาเป็นขีดจำกัดในการทำงานของคณะรัฐมนตรี นโยบายใดที่จะสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เพื่อดูแลทุกข์สุขหรือยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ควรเร่งดำเนินการก่อน และเข้าใจว่าแต่ละกระทรวงมีแผนงานโครงการหลายด้านที่ต้องดำเนินการ เพื่อเร่งยกระดับชีวิตพี่น้องประชาชน
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ไม่ควรให้ทุกอย่างที่จะดำเนินการเพื่อประชาชน มีอุปสรรคในด้านขีดจำกัดเรื่องงบประมาณ เวลา หรือการเข้ามาได้บริหารช้าลงไปเล็กน้อยเป็นขีดจำกัดในการทำงาน โดยจากนี้จะมีการรับฟังความคิดเห็นและเสียงสะท้อนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และรับฟังความคิดเห็นกับข้าราชการ เพื่อร่วมกันผลักดันงาน แก้ไขปัญหาประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบในแต่ละประเด็น หากจะมีการลงพื้นที่รับฟังปัญหาประชาชน ขอให้ทำงานร่วมกับ สส. อยากให้ใกล้ชิดและคล่องตัว เน้นการรับฟังปัญหาพี่น้องประชาชนเป็นหลัก
"เวลาที่เราเข้าไปพูดคุยกับพี่น้องประชาชน อย่าอธิบายว่าทำไมถึงทำไม่ได้ เราถูกเลือกเข้ามาเพื่อให้ทำให้ได้ เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด รัฐบาลของประชาชน เราต้องลดช่องว่างของฝ่ายบริหารกับพี่น้องประชาชนให้ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ อยากให้พี่น้องประชาชนเข้าถึงผู้บริหารได้ อยากให้เป็นมิติใหม่ของรัฐบาลนี้ และหากมีโอกาสได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลจะได้เน้นย้ำในเรื่องนี้” นายกรัฐมนตรีกล่าว