"ลูกศร ธนาภรณ์ จิตต์จำรึก" เผยเคสตัวอย่างของผลจากอำนาจเบ็ดเสร็จที่ตรวจสอบไม่ได้ "พล.ต.ต.ปวีณ" ไร้หาทางกลับไทย ใช้ชีวิตลำบากในต่างแดน
สำหรับ พล.ต.ต.ปวีณ ได้รับการยอมรับว่าเป็น "นายตำรวจน้ำดี" และเป็น "ตำรวจตงฉิน" คนหนึ่ง เขาเป็นคนกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 35 รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตลอดชีวิตราชการได้รับรางวัลมากมาย โดยเฉพาะรางวัลพนักงานสอบสวนดีเด่นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 3 ปีซ้อน สมัยดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.กะทู้ และ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับรางวัลที่ 1 โรงพักต้นแบบที่มีการจัดระบบอย่างทันสมัย สามารถตอบสนองการให้บริการประชาชนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์
ส่วนผลงานด้านการสอบสวน เคยคลี่คลายคดีสำคัญๆ มากมาย เช่น คดี นายศักดิ์ ปากรอ ฆ่ายกครัว 5 ศพ ที่อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา คดีฆาตกรรมแหม่มสวีเดน ที่ จ.ภูเก็ต คดีทุจริตก่อสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่ง แฟลตตำรวจ 163 แห่ง คดีร้องเรียนแท็กซี่มาเฟีย จ.ภูเก็ต จับกุมผู้ต้องหาได้กว่า 200 คน และคดีสุดท้ายคือคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ก่อนจบชีวิตราชการก่อนเกษียณถึง 3 ปี
โดย พล.ต.ต.ปวีณ ผู้เปิดโปงกระบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา หายหน้าไปจากวงการสีกากี เขาและครอบครัวเดินทางไปประเทศออสเตรเลีย พร้อมทำเรื่องขอลี้ภัย ปัจจุบันได้สถานะผู้ลี้ภัยแล้ว และได้สัญชาติออสเตรเลียแล้ว หลังลี้ภัยนาน 7 ปี นับเป็นชะตาชีวิตที่หักเหของนายพลตำรวจตรีที่ไม่เคยคิดว่าต้องมาใช้ชีวิตวัยเกษียณนอกมาตุภูมิ
ด้าน "ลูกศร ธนาภรณ์ จิตต์จำรึก" ได้โพสต์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวเอาไว้ว่า
"คนดีที่ไม่ใส่หน้ากาก ไม่มีดีล จึงยังต้องลี้ภัย...สืบขบวนการค้ามนุษย์จนเจอตอ..จับทหารที่ก่อคดีเข้าคุก *โดนสั่งว่าอย่าจับ ถูกย้ายไป 3 จ.ชายแดนใต้ มีคนหวังดีโทรมาเตือนว่าผู้ใหญ่จะเอาชีวิต จึงต้องหนีเพราะนายทหารที่ถูกจับก็ตายปริศนาในคุก ลี้ภัยมานับ10ปีจนถึงวันนี้
อีก 1 ตัวอย่างของผลจากอำนาจเบ็ดเสร็จที่ตรวจสอบไม่ได้
Cr.to พรพิภพ กระจ่างศักดิ์"