"สุทิน"แจงความจำเป็นจับมือ รทสช.

2023-08-18 15:48:30

"สุทิน"แจงความจำเป็นจับมือ รทสช.

Advertisement


"สุทิน"แจงจับมือ รทสช.  เหตุเสียงไม่พอ ต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ แนะให้ไปถาม "หมอชลน่าน" จะลาออกหรือไม่

เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 66 ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย  (พท.) กล่าวภายหลังการหารือร่วมกันของวิป 3 ฝ่าย ในการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 ส.ค.นี้ ที่มีข้อตกลงว่าแคนดิเดตนายกฯ ที่เสนอต่อรัฐสภาไม่ต้องแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมรัฐภา ว่า พิจารณาตามข้อบังคับและรัฐธรรมนูญแล้ว ไม่ได้บังคับ อีกทั้งเจตนารมณ์ของการเขียนข้อบังคับต้องการให้เคารพกระบวนการเลือกตั้ง การวินิจฉัยของประชาชน ทั้งนี้ในการประชุมประเมินว่าอาจมีผู้ติดใจ จึงเปิดให้มีการอภิปราย รวม 5 ชั่วโมง แบ่งเป็น ส.ว. 2 ชม. ส.ส.3  ชม. โดยจำนวนดังกล่าวจะเป็นของพรรคก้าวไกล 30 นาที ซึ่งทราบว่าพรรคก้าวไกลจะใช้เพื่อแสดงจุดยืนทางการเมือง ในประเด็นที่มีข้อติดใจ พรรคเพื่อไทยเตรียมกระบวนการชี้แจง แถลงข้อกล่าวหาต่างๆ และแสดงวิสัยทัศน์ของผู้ที่จะเสนอชื่อให้โหวตเป็นนายกรัฐมนตรีในรัฐสภาเท่าที่พอจะทำได้ภายนอก ก่อนถึงวันโหวตนายกรัฐมนตรี แต่หากในการประชุมรัฐสภา มีการตั้งคำถามหรือซักถาม เป็นหน้าที่ของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่จะรับผิดชอบ 

เมื่อถามว่า ประเด็นที่จะถูกอภิปรายกังวลหรือไม่ว่าจะไปไกลถึงเรื่องส่วนตัว นายสุทิน กล่าวว่า อาจจะมีได้แต่เชื่อว่าประธานในที่ประชุมคงวางกรอบไว้ หากเกินเลยไปจริงๆ จะให้ สส.ชี้แจงแทน ส่วนประเด็นเรื่องคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามนั้น ตนมองว่าที่ผ่านมาถูกคัดกรองในหลายระดับ ทั้งพรรคการเมือง และ กกต. ดังนั้นประเด็นคุณสมบัตินั้นไม่มีอะไรที่น่าติดใจ

เมื่อถามถึง กรณีที่พรรคเพื่อไทยข้ามขั้วจับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นั้น นายสุทิน กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวพรรคเพื่อไทยชี้แจงได้ เหตุที่ต้องไปรวมเพราะมีเหตุผลและมีคนที่เป็นต้นเหตุให้ไปรวม ซึ่งเป็นประเด็นบีบบังคับให้เราต้องไปรวม ทั้งนี้เจตนารมณ์ของประชาชนต้องการให้จัดตั้งรัฐบาลให้ได้ แต่เมื่อขั้วเราบางพรรค เขาไม่ยอมรับ ทำให้เสียงไม่พอ ดังนั้นเพื่อให้การตั้งรัฐบาลได้ตามเจตนารมณ์ของประชาชน จึงเป็นความจำเป็น  เมื่อถามว่า หลังจากที่จับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติ สังคมทวงถามถึงการลาออกของนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสุทิน กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการพูดของ นพ.ชลน่าน เป็นการแสดงจุดยืนจริง แต่เมื่อผลการเลือกตั้งผิดความคาดหมาย และเพื่อให้ตั้งรัฐบาลบนเจตนารมณ์ของประชาชนเป็นไปได้ เป็นความจำเป็นต้องไปรวม

“ตามเจตนารมณ์ของประชาชน ไม่มีอะไรที่ได้ทุกอย่างหรือเสียทุกอย่าง ส่วนจะต้องรับผิดชอบคำพูดหรือไม่หรือจะลาออกหรือไม่ต้องถาม  นพ.ชลน่าน ซึ่งผมมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เทคนิคการหาเสียง แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป บริบทความเป็นจริงเปลี่ยนแปลงไป จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องทำไม่เหมือนสิ่งที่พูดไป และผมยืนยันว่าเป็นความจำเป็นในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป” นายสุทิน กล่าว