ตร.สุไหงโก-ลกนำตัวผู้ต้องหาขับรถชนแล้วถอยทับร่างลูกน้องฝากขังที่ศาล จ.นราธิวาส
สำหรับความคืบหน้ากรณีกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพนายสาโรจน์ หลี อายุ 40 ปี เจ้าของร้านมุสลิมการยาง ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 2 ถ.ลูกเสืออนุสรณ์ 2 ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้ขับรถยนต์กระบะแล้วถอยทับนายมะดาโอ๊ะ มะบา อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นลูกน้องเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.04 น.ของวันที่ 27 ก.พ. 61 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก สามารถจับกุมตัวนายสาโรจน์ ได้ในเวลาต่อมา โดยนายสาโรจน์ ได้ให้การกับ ร.ต.อ.กิตติพงศ์ หนูเพ็ง รองสารวัตรสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก ว่า ตนโกธรแค้นนายมะดาโอ๊ะ ซึ่งเป็นเพื่อนและเป็นลูกน้องของตน ที่ตนได้ระแคะระคายว่านายมะดาโอ๊ะ ได้ลักลอบมีความสัมพันธ์กับภรรยา และก่อนที่จะตัดสินใจขับรถยนต์กระบะชนนายมะดาโอ๊ะ เสียชีวิตนั้น ตนได้เห็นนายมะดาโอ๊ะ ขี่รถ จยย.ผ่านร้านที่ตนนั่งดื่มน้ำชา ตนจึงรีบวิ่งขับรถยนต์ชนนายมะดาโอ๊ะ และได้ถอยรถเหยียบร่างซ้ำเพื่อให้เสียชีวิต
ซึ่งล่าสุดในช่วงเช้าเวลา 09.00 น. ร.ต.อ.กิตติพงศ์ หนูเพ็ง รองสารวัตรสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก ได้ควบคุมตัวนายสาโรจน์ ฝากขังที่ศาล จ.นราธิวาส ในระหว่างที่พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมหลักฐาน เพื่อที่จะฟ้องต่อไป ซึ่งในส่วนของนายสาโรจน์นั้น ได้เตรียมหลักทรัพย์ ที่จะขอศาลประกันตัวแต่อยู่ที่ดุลพินิจของศาลว่าจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่อย่างไร
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่า ร้านมุสลิมการยางของนายสาโรจน์ หลี หลังก่อเหตุและถูกเจ้าหน้าที่จับกุม พบว่าในวันนี้ได้ปิดกิจการ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปพบนายอับดุลเลาะห์ มะ อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นชายที่เข้าไปช่วยนายมะดาโอ๊ะ ตามภาพวงจรปิดที่ปรากฏ ซึ่งเป็นลูกจ้างร้านซ่อมรถ จยย.จุดเกิดเหตุ ซึ่งกำลังนั่งซ่อมรถ จยย.อยู่ โดยนายอับดุลเลาะห์ ได้เดินไปชี้จุดเกิดเหตุซึ่งมีร่องรอยของรถชนอยู่บนผิวถนน และอธิบายให้ผู้สื่อข่าวฟังโดยที่ไม่ได้เห็นตอนรถยนต์ชนรถ จยย.ที่นายมะดาโอ๊ะ ขับขี่มา พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า แรกๆก็นั่งซ่อมรถ จยย.อยู่จู่ๆได้ยินเสียงเหมือนรถชนกัน ตนจึงหันไปมองเห็นคนเจ็บนอนอยู่ก็เลยวิ่งเข้าไปช่วย
ต่อมาผู้สื่อข่าวทราบมาว่า นายสาโรจน์ หลี ผู้ต้องหามีพี่ชายชื่อ รุสดี หลี เปิดร้านจำหน่ายยางรถยนต์เช่นกัน ชื่อ ร้านมุสลิมการยาง 2 ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 7 ถ.ลูกเสืออนุสรณ์ 2 ซึ่งร้านอยู่ซอยเยื้องกับร้านมุสลิมการยางของนายสาโรจน์ จึงเดินทางไปเพื่อที่จะสอบถามเกี่ยวกับเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น แต่ปรากฏว่านายรุสดี ไม่อยู่ร้าน จึงได้สอบถามลูกน้องของนายรุสดี และทราบว่า นายสาโรจน์มีอาการทางประสาท เดิมทีแม่ของนายสาโรจน์ จะเป็นคนไปเอายาประสาทให้กับนายสาโรจน์ ที่ รพ.สุไหงโก-ลก เป็นประจำหากยาที่นายสาโรจน์ รับประทานหมด แต่หลังจากแม่ของนายสาโรจน์ เสียชีวิตได้ 1 ปี นายสาโรจน์จะเป็นคนไปเอายาที่ รพ.สุไหงโก-ลกเอง แต่นานๆ เข้า นายสาโรจน์ ไม่เดินทางไปเอายามารับประทาน ทำให้ขาดยาแล้วเกิดอาการทางประสาท