แรงงานไทยก่อหนี้สูงสุดในรอบ 8ปี

2017-04-27 15:35:13

แรงงานไทยก่อหนี้สูงสุดในรอบ 8ปี

Advertisement

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยว่า จากการสำรวจสถานภาพแรงงานไทยที่มีรายได้ต่ำกว่าเดือนละ 15,000 บาท พบว่า กว่า 97% ของแรงงานไทยยังมีภาระหนี้ และก่อหนี้เฉลี่ยครัวเรือนละ 131,479 บาท เพิ่มขึ้น 10.43% จากปีก่อนหน้าที่ 119,061 บาท นับว่าสูงสุดในรอบ 8 ปี ส่วนหนึ่งมากจากหนี้สะสมตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จากภาวะเศรษฐกิจของประเทศไม่ดี จึงต้องกู้ยืมเงินมาใช้จ่าย และอีกส่วนหนึ่งเนื่องจากยังต้องใช้จ่ายมากกว่าหรือเท่ากับรายได้ เพราะมีรายได้เท่าเดิม แต่ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ทั้งจากราคาสินค้าที่แพงขึ้น มีของที่ต้องการซื้อมากขึ้น รวมทั้งดอกเบี้ยสูงขึ้น ทำให้มีหนี้สินเพิ่ม แต่อย่างไรก็ดี หนี้ที่สูงนี้ ไม่น่าเป็นห่วง เพราะเป็นการก่อหนี้เพื่อซื้อทรัพย์สินคงทน อาทิ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้น จากเดิมที่เป็นการกู้เพื่อใช้จ่ายทั่วไปเป็นหลัก
 
ทั้งนี้ เป็นที่น่ายินดีว่าหนี้เหล่านี้เข้ามาเป็นหนี้ในระบบเพิ่มสูงขึ้น และมีหนี้นอกระบบลดลง จากมาตรการของภาครัฐที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการดึงหนี้นอกระบบกลับเข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น โดยเป็นหนี้ที่อยู่ในระบบ 46.4% จากปีก่อนที่มี 39.38% เป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี ขณะที่หนี้นอกระบบนั้นมีสัดส่วน 53.6% ลดลงจากปีก่อนหน้าที่มีสัดส่วน 60.62% ถือว่าลดลงสูงสุดในรอบ 4 ปีเช่นกัน โดยมีภาระการผ่อนเฉลี่ยเดือนละ 5,080.48 บาท ลดลงจากปีก่อนที่ผ่อน 8,114.31 บาท โดยผ่อนหนี้ในระบบลดลงเหลือเดือนละ 5,587.28 บาท จากปีก่อนที่ผ่อนเดือนละ 5,889.53 บาท ขณะที่หนี้นอกระบบก็ลดลงเช่นกัน หรือผ่อนเดือนละ 5,244.88 บาท จากปีก่อนที่สูงถึง 9,657.78 บาท และมีความสามารถในการผ่อนชำระดีขึ้นปีก่อน ที่มีปัญหาการผ่อน 83.5% ลดเหลือเพียง 78.6% รวมทั้งมีอัตราการออมเพิ่มขึ้น จากปีก่อนเพียง 39.4% เป็น 62.6% ในปีนี้
 
โดยปัญหาการผิดนัดชำระหนี้นั้น ยังคงมีสูง ซึ่งแรงงานส่วนใหญ่ 78.6% เคยผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากรายได้ไม่เพิ่มขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายและราคาสินค้าสูงขึ้น จนหมุนเงินไม่ทัน ดังนั้นจึงต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือด้วยการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 410 บาท ภายใน 3 ปี พร้อมทั้งควบคุมราสินค้า และช่วยเหลือเรื่องค่าครองชีพให้สอดคล้องกับรายได้ แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ช่วยเหลือผู้ว่างงาน ดูแลประกันสังคม และค่ารักษาพยาบาล ลดดอกเบี้ยเงินกู้ และให้เงินช่วยเหลือด้านสวัสดิการ เป็นต้น