เสียหายไป 2 ล้าน !! "น้อย โพธิ์งาม" ขอโทษ "หญิง รฐา" กิจการส้มตำขาดทุนยับ

2023-08-15 11:45:02

เสียหายไป 2 ล้าน !! "น้อย โพธิ์งาม" ขอโทษ "หญิง รฐา" กิจการส้มตำขาดทุนยับ

Advertisement

เสียหายไป 2 ล้าน !! "น้อย โพธิ์งาม" ขอโทษ "หญิง รฐา" กิจการส้มตำขาดทุนยับ



"หญิง รฐา" ควง "ตุลย์ ตุลยเทพ" สามีพร้อมคุณแม่สุดที่รัก "น้อย โพธิ์งาม" มาเปิดชีวิตครอบครัวที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow




ออกรายการพร้อมกัน 3 คนครั้งแรก ?
หญิง : ใช่ไม่เคยออกรายการมีพี่ตุลย์ แม่ หญิง เลย



แต่งมา 2 ปี เรือนหอเสร็จแล้ว ?
หญิง : ยังไม่ 100%

ตุลย์ : ยังไม่ได้ตกแต่ง

สาเหตุที่ไม่ย้ายไปอยู่เรือนหอ เพราะยังไม่เสร็จหรือติดแม่ ?
หญิง : รวมๆ แต่ก่อนบ้านพี่ตุลย์จะอยู่กับคุณพ่อ พี่สาว พอคุณพ่อเสีย พี่สาวอยู่บ้านคนเดียว เราไม่อยากให้พี่สาวอยู่บ้านคนเดียว เลยให้พี่ตุลย์กลับไปอยู่บ้านตัวเองด้วย ส่วนคุณแม่ เราอยู่ติดบ้าน เป็นคนชอบอยู่บ้านตัวเอง ก็เลยเป็นลักษณะ 3 วันอยู่บ้านพี่ตุลย์ อีก 4 วันมาอยู่บ้าน แต่ก็มีซื้อคอนโดฯ เอาไว้ แต่ยังไม่ได้ตกแต่ง



ลูกสาวติดคุณแม่ ได้ยินแบบนี้อิ่มเอิบไหม ?
แม่น้อย : ไม่ต้องได้ยินหรอก การกระทำมันห่างแม่ไม่ได้ ยังบอกเธอมีสามีแล้วนะ เธอยังให้ฉันเกาหลังอยู่ เขาเกาไม่เหมือนแม่เกา เอ้า...จะมีผัวทำไม มันก็มาอ้อนเรื่อยๆ



ตกลงลูกสาวติดแม่ หรือแม่ติดลูกสาว ?


แม่น้อย : ก็ทั้งคู่ เหมือนกันเลย แม่ก็ไม่มีใคร มีหญิงคนเดียว แล้วมามีลูกชายนี่แหละ จะไม่ให้รักมากได้ยังไง

หญิง : มีหญิงคนเดียว หญิงไม่ใช่ลูกนะ แล้วมีลูกชาย

เห็นว่าคนรักลูกชายคนนี้ แม่เคยหนีพี่ตุลย์มาก่อน ?
แม่น้อย : ไม่ใช่หนีพี่ตุลย์ คือมันมีเรื่องที่รู้ๆ กันอยู่ คือเราจะรู้ไหมว่าลูกเราไปคบกับใคร ก็มันไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างนี้ เราก็เลยงอนลูก ขับรถหนีลูกไปเลย รู้ว่าพี่ตุลย์จะมาขับรถหนีลูกไปเลย ให้รู้ว่าฉันยังไม่พอใจ เพราะข่าวออกมาอย่างนั้น แล้วลูกเราก็คิดมาก พอตุลย์มาพูดเท่านั้นสยบทุกอย่างเลย

แม่น้อยหวงลูกสาว ตอนนั้นรู้อยู่แล้วไหม ?


ตุลย์ : รู้ครับ แต่ไม่ได้กังวลอะไรมาก ถ้าเรามีความตั้งใจดี การกระทำดี ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลอะไร เราไม่ได้เข้ามาเพื่อมาหลอกลูกสาวเขา คุยกับหญิงเหมือนกันว่าจะทำยังไงให้พิชิตใจคุณแม่ได้ แค่เราเป็นตัวของเราเอง แล้วทำอย่างที่เราทำให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเราคบกันจริง เราตั้งใจจริง แล้วเราไม่ได้ทำให้หญิงเสียใจ สักวันคุณแม่จะเข้าใจ

คุณแม่สตาร์ตรถไปกี่ครั้งกว่าจะได้เจอ ?
ตุลย์ : ไม่ได้นับครับ

แม่น้อย : เขาไม่เห็น

หญิง : พาร์ตนี้พี่ตุลย์จะไม่รู้เลยว่าแม่ไม่อยู่บ้าน แม่ไม่อยู่เป็นระยะเวลานานเหมือนกันนะ

แม่น้อย : จนกระทั่งเรื่องมันเงียบ

หญิง : เหมือนเขาจะขับมารับ มาส่ง ไปกินข้าว ดูหนัง แต่ว่าเขาจะไม่เคยเจอแม่เลย เขาส่งเขาจะอยู่แต่ชั้นล่าง

แม่น้อย : แล้วข่าวมันแรงไง เขาบอกว่าหญิงไปทำให้เขาแตกกัน แม่ไม่รู้ว่าคนนั้นคือใคร แล้วทำให้เขาแตกกัน ฉันก็ใส่ลูกเลย แกทำอะไรเนี่ย แกทำแบบนี้เพื่ออะไร แกคิดดีแล้วเหรอ แกทำงานมาตลอดชีวิต หญิงก็บอกว่า พ่อก็มีลูกมาก่อน แต่ฉันก็ย้อนไปว่า แม่คิดได้ตอนพ่อมีลูกเขา 7 ขวบแล้ว เขาเลิกกันมาแล้วมาเจอแม่ พอเขาพูดมาแม่สะอึก เห้ย..ดวงลูกจะเหมือนเราหรือเปล่า

หญิง : เขากลัว คือต้องยอมรับว่าแม่มีปมในใจเรื่องนี้ว่าแบบ ตัวเขาเองคุณพ่อเคยมีครอบครัวมาก่อน แล้วคุณแม่เข้ามา

แม่น้อย : ทีแรกเราไม่รู้

หญิง : สุดท้ายคุณแม่เป็นคนที่สองแต่ได้แต่งงาน คราวนี้เขาเลยกลัวว่าชีวิตเราจะเหมือนเขา เขาเลยมาถามเราว่า เขาเลิกกันจริงๆ แล้วใช่ไหม เรารู้อะไรบ้าง เรายังไง หญิงบอกหญิงตอบแม่ไม่ได้หรอก คนที่ตอบได้คือพี่ตุลย์



หญิงนัดตุลย์มาหาแม่เลย ?
หญิง : ใช่ ตอนนั้นค่ำๆ แล้วแม่ก็ไล่หญิงขึ้นบ้านไปเลย แม่ขอคุยกับตุลย์

แม่น้อย : แม่นั่งเฉยๆ พูดคำแรกเลย ตุลย์จำได้หมด ตุลย์รู้ไหมแม่มีลูกสาวคนเดียว แล้วตั้งแต่เล็กจนโตหญิงทำงานอย่างเดียวเลย แล้วหญิงไม่เคยมีประวัติอะไรเลย แม่พูดไปตั้งยาว เขาไม่พูดอะไรสักคำ พอแม่หยุด ตุลย์บอกว่า ครับ ผมจะไม่ทำให้แม่กับน้องเสียใจ ผมจะดูแลแม่และน้องไปตลอด แค่นี้เองแล้วแม่ก็ไม่พูดอะไรเลย

ความกังวล ความโกรธ ความเครียด ?
แม่น้อย : ไม่มี หายหมดเลย

หญิง : แม่ก็เคลียร์ด้วยแหละว่าเลิกกันไปแล้วจริงๆ ใช่ไหม แล้วพี่ตุลย์ก็ยืนยัน

แม่น้อย : เราถามเขาด้วยว่ามันเป็นยังไง เขาบอกว่าผมอยู่มา 2 ปีแล้ว ไม่ได้คุยอะไรกันเลย

ตอนนั้นเราตอบประโยคสั้นๆ แล้วทุกอย่างจบเลย ทำไมถึงตอบแบบนั้น?
ตุลย์ : จริงๆ เป็นคนที่ไม่ได้พูดเก่ง ไม่ได้พูดเยอะด้วย ก็เลยคิดว่าพูดแค่สิ่งที่เรามั่นใจดีกว่า บอกคุณแม่ว่าผมอาจจะรักหญิงไม่เท่าที่คุณแม่รัก อาจจะไม่ถึงครึ่งนึงด้วยซ้ำ แต่ว่าจะทำให้ดีที่สุดและจะไม่ทำให้หญิงกับคุณแม่เสียใจ

หญิง : หลักๆ คุณแม่แค่อยากรู้ว่าเราเข้าไปในวันที่เขาเลิกกันแล้วจริงๆ หรือเปล่า พอเขาเคลียร์ว่าเราเข้าไปในวันที่เขาเลิกกันแล้วจริงๆ แยกกันอยู่คืออยู่คนละบ้าน เขาก็สบายใจแล้ว เขาต้องการความมั่นใจ

แม่น้อย : การที่แม่พูดบ่อยๆ ว่าใครก็ได้ ไม่ต้องเป็นอะไรมา ชั้นฟ้า แผ่นดินไหนก็แล้วแต่ให้รักลูกฉันครึ่งนึงของฉันก็พอ แต่นี่มันเกินครึ่งนึงของฉัน

ลูกเขยคนนี้เหมือนกับหนึ่งของขวัญพอเศษที่เบื้องบนส่งมาเลยไหม ?
แม่น้อย : แม่ยอมรับตรงนั้น มันมีอะไรที่มาเติมเต็มบ้านเรา บ้านเราไม่มีผู้ชาย

แล้วจุดไหนที่แม่เริ่มรักลูกเขยมากกว่าลูกสาว ?
แม่น้อย : ฉันทำอะไรเขารับประทานหมดเลยทุกอย่าง ส่วนหญิง คำ สองคำ แล้วมันวางบอกว่าอร่อยแค่นั้นเอง แล้วคนที่กินหมดมันน่าชื่นใจไหม เราต้องคอยดูเลยว่าวันไหนลูกเขยจะมาบ้าน วันไหนจะคอยถาม ตุลย์ทำอย่างนี้คงที่ตลอด พอวันศุกร์เขาจะมาบ้าน ฉันจะเอาหมาของเขาไปอาบน้ำ คอยตุลย์มา แล้วเจ้าหมาก็รักพ่อ รักแม่มัน เราก็ทำให้สะอาด ตู้ปลา บ้านช่อง ที่นอน เราก็ทำให้สะอาดหมดเลย ลูกชายกับลูกสาวมานอนจะต้องหอม ห้องน้ำฉันไปล้างเองนะ



แม่น้อยทราบเมื่อไหร่ว่าตุลย์เขาไม่สามารถแกะเม็ดเงาะเองได้ ?
แม่น้อย : แม่เกตุเขาเมาท์มา แม่เขารักเขานะ เนี่ยเลี้ยงมาขนาดไหน มันไม่กินนะผลไม้ ไม่เลาะเม็ดให้มันอะมันไม่กิน ฉันก็ไปซื้อมีดที่คว้านมา บาดมือทำไม่เป็นเลยได้มา 4-5 ชิ้น นางก็กินหมด ลูกฉันเนี่ยลองกองอย่างเดียว

พี่ตุลย์ แม่ทำให้ขนาดนี้ หลงเราขนาดนี้ ?
ตุลย์ : ก็รู้สึกทราบซึ้งใจ ขอบคุณแม่น้อยครับ ทำมาตลอด ผลไม้ไม่ใช่จานเล็กๆ คือเป็นถาด ใส่เหมือนของโรงแรมมา เราก็เกรงใจ

แม่น้อย : เขาทานหมด

ตุลย์ : ถ้าทานไม่หมดเดี๋ยวคุณแม่เสียน้ำใจ

แม่น้อยบ่นเราเรื่องแม่ศรีเรือน ?
หญิง : ด้วยความที่หญิงอยู่กับแม่มาตลอด เวลาอยู่บ้านตัวเองแทบจะไม่ต้องทำอะไร เหมือนมีคนทำให้ตลอด เขาจะรู้สึกว่า เราทำอะไรไม่เป็นเลย ถ้าเราไปเมืองนอก ไปต่างจังหวัดกับพี่ตุลย์แล้วเราทำอาหารให้เขากินเป็นไหม แต่เขาไม่เคยมาเห็นหญิงไงว่าหญิงทำอาหารเช้าให้พี่ตุลย์กินนะ ตื่นมาหญิงปูเตียง หญิงเก็บเตียงนะ เขาไม่รู้

แม่น้อย : ฉันจะไม่รู้ได้ไง อยู่บ้านเธอลงมาถามคุณแม่อยู่ไหน แล้วก็ขึ้นไป พอมันออกไปใครปูที่นอน นี่ๆ ผูเตียง เช้ามาตุลย์มาชงกาแฟ แล้วน้องหญิงไปไหน น้องหญิงเข้าห้องน้ำครับ ยังไม่เสร็จ เขามาเอากาแฟขึ้นไปให้

หญิง : เราสลับกัน

หญิงบอกทำอาหารเช้าให้ตุลย์ แต่แม่บอกตุลย์ทำอาหารเช้าให้หญิง ?
ตุลย์ : ถ้าอยู่ที่บ้านคุณแม่ หญิงไม่ต้องทำ เพราะมีคนทำให้ แต่ถ้าไปเที่ยวกันเมืองนอก บางวันเขาตื่นมาทำอาหารเช้า ทอดไข่ ทำเบคอน

หญิง : นั่นเป็นเรื่องนึง แต่อีกเรื่องที่แม่ชอบบ่น หญิงเป็นคนที่เพื่อนกะเทยเยอะ แล้วมันกลายเป็นว่าสำเนียงหรือวิธีการพูดกับสามี มันจะไม่หวาน เราเหมือนเป็นเพื่อน เป็นพี่ตั้งแต่คบ ตั้งแต่จีบกันมันไม้ได้มีโมเมนต์สวีตมากเหมือนคนรู้จักกันอยู่แล้ว หญิงดูเป็นผู้ชายมากกว่าพี่ตุลย์อีก แบบพี่ตุลย์เดี๋ยวขึ้นข้างบนแล้วนะ แม่ก็จะแบบว่าทำไมพูดจาแบบนี้กับพี่เขา ค่ะ ขา มันหายไปไหนหมด หญิงก็แบบหญิงต้องพูดคะด้วยเหรอวะ แบบพี่ตุลย์คะ มันก็เขินอะ

แม่น้อย : เขาก็เปลี่ยนเบาลงแล้ว



แม่น้อยรู้สึกกลัวพี่ตุลย์อายว่าแม่ขายส้มตำ?
แม่น้อย : เขาทำงานบริษัทใหญ่ๆ เขาทำของเขา เราไม่รู้ว่าคุณพ่อ คุณแม่ เขาปูพื้นมาคบค้าสมาคมกันยังไง แล้วพอได้แม่ยาย แม่ยายตำส้มตำ แล้วดิฉันติดดิน ฉันเคยถามเขา ว่าแม่ไปตำส้มตำ ตุลย์ว่าอะไรไหม ตามสบายเลยครับ แม่ทำที่แม่สบายใจ แม่ทำเลยครับ คำนี้เท่านั้นเองฉันจบเลย ได้ใจฉัน มึงไม่มีลูกไม่เป็นไร ฉันตำส้มตำไป แต่ถ้าให้ฉันหยุดก็มีหลานให้ฉัน

ถ้าสองคนนี้มีลูกแม่น้อยเลิก เลี้ยงหลานอย่างเดียว ?
แม่น้อย : จ๊ะ

แต่ถ้าไม่มีลูกตำไปตลอดชีวิต ?
แม่น้อย : จนกระทั่งฉันถือไม่ไหว

หญิง : อีก 2 ปีก็ถือไม่ไหวแล้ว

แม่น้อย : ฉันเพิ่ง 68 เอง

ใจพี่หญิงจริงๆ อยากให้คุณแม่เลิกตำส้มตำ ?
แม่น้อย : อย่าถามมัน

หญิง : คำว่าเลิกตำส้มตำ มันไม่ใช่อยู่ดีๆ แค่ยืนตำอย่างเดียว มันต้องดู ซื้อของ คุยกับคน ถือของ เตรียมของ มันมีดีเทลเยอะ สั่งของต้องสั่งแต่เช้าตรู่ เราเห็นเขาทำก็รู้สึกว่าเขาเหนื่อย

ก็อีกออฟชั่นถ้าอยากให้แม่หยุด ต้องมีหลาน ?
หญิง : อายุมากแล้ว อย่ามีเลย

แม่น้อย : ข้ออ้างเธอเปล่า

จากการทำร้านส้มตำ มีเรื่องนึงที่แม่น้อยไม่บอกหญิง เพราะกลัวหญิงจะไปปิดร้านส้มตำ ?
แม่น้อย : แม่ทำร้านขาดทุน 2 ล้าน

หญิง : รู้อยู่แล้ว รู้มาตลอด

แม่น้อย : วันที่โควิด ขอโทษนะ มันไม่มีหนี้สินแล้ว โควิดมา เขาควักเงิน 5 แสนไปจ่ายตรงนั้น มันจบแล้วไง แต่ทีนี้พอเปิดมามันก็ไม่ได้อย่างนั้น มีขาดทุนบ้าง แต่ไม่อยากให้ลูกรู้ ยิ่งพอมาแต่งงานกับตุลย์แม่เตรียมทุกอย่างเลย ไม่อยากให้ใครรู้ แม่รีบหาเงิน ขยันมาก ตอนนั้นยังไม่ได้ออกบูทด้วยนะ วันนึงจะขายได้เท่าไหร่ คิดทุกอย่าง ผลสุดท้ายมันก็ไม่หลุด จนคนนี้ต้องไปเคลียร์อย่างเดิม แม่เจ็บใจตรงนี้แหละ

หญิง : แต่ก็ห้ามไม่ได้ ยังทำอยู่

แม่น้อย : เขาให้เลิกหลายครั้งแล้ว แต่แม่ไม่เลิก

หญิง : คือมันไม่ใช่หรอก คือเรารู้อยู่แล้ว ต้นทุนที่ทำร้านก็เป็นเรา ทุกวีคต้องเบิกเราเพื่อไปซื้อของเข้าร้าน สุดท้ายพอขายของไป มันต้องไปจ่ายค่าเด็ก ค่าเช่าที่ มันไม่ได้อะไร แต่ทุกวันนี้ที่หญิงให้เขาทำ เพราะหญิงรู้สึกว่าทันคือความสุขเขา เรามีกำลังไปซัพพอร์ตเขา ณ วันนี้ก็ซัพพอร์ตเขาไป หญิงถึงบอกว่า อีก 2 ปีคงหยุดแล้วแหละ



เงินที่หายไปเราไม่ติดตรงนี้อยู่แล้ว ?
หญิง : หนูไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว คือทุกวันนี้สิ่งที่เขาทำมันคือการหมุนนะ ถามว่ากำไร คือเวลาลงทุนต้องได้กำไร แต่หญิงเป็นนักลงทุนที่ไม่ได้กำไรมาทั้งชีวิตเลย แต่กำไรหญิงมันเป็นกำไรจากทางอื่นมากกว่า หญิงยังมีงานทำ หญิงรู้สึกว่านี่คือกำไรในชีวิตขอบหญิงแล้วแหละ แต่ในส่วนของเขา เขาทำแล้วมีความสุข เขาได้ตำ ได้เจอคน คนบอกของเขาอร่อย มันเป็นความสุขของเขา หญิงรู้สึกว่าเขาคงสนุกของเขาในแบบนั้น แล้วมันไม่ใช่ก้อนที่มันมหาศาลหรืออะไรก็ยังให้เขาหมุนไปเรื่อยๆ ที่เขาทำ

ข้อตกลงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เรื่องแม่กับร้านส้มตำ อยากได้ยังไง?
หญิง : เอาจริงๆ หญิงทำใจแล้ว เอาจนเขาเริ่มเหนื่อยแล้วเขาหยุดเอง จะไม่บ่นแล้ว

พี่หญิงเคยปรึกษาไหม เรื่องแม่ลูกทะเลาะกัน ?
ตุลย์ : มีตลอดเลยครับ ส่วนมากจะเป็นเรื่องงอนกัน

หญิง : ถ้าแม่งอนก็จะฟิวตึงๆ สมัยก่อนเราจะซื้อของที่เขาชอบมาให้กิน เขาก็จะไม่กินบ้าง ทิ้งไว้ในตู้เย็นบ้าง พอเรามีพี่ตุลย์เรารู้แล้วว่าเขาจะยอมคนนี้ เขาไม่ยอมเรา เราก็จะสะกิดลงไปดูให้หน่อยดิ

ตุลย์ : สมมติอยู่ข้างบน คุณแม่อยู่ข้างล่าง คุณแม่งอน ก็แบบพี่ตุลย์ลงไปดูให้หน่อย แม่หายยัง พอลงไป คุณแม่ครับทานหรือยังครับ เออ ทานแล้วล่ะ เดินขึ้นมา ยังตึงๆ อยู่

อยากได้ลูกไหม ?
ตุลย์ : ไม่ ทั้งคู่นะครับเคยคุยกันแล้วว่าไม่อยากมี คือเป็นห่วงเขาด้วย ถ้าเรามีเขาแล้ว เราเลี้ยงเขาด้านนึง แต่อีกด้านเขาต้องออกไปเจอข้างนอก ซึ่งเอาจริงๆ ทุกวันนี้มันก็ไม่น่าเจอเท่าไหร่ ก็จะสงสารเขามากกว่า

แม่น้อย : แต่สมัยนี้ แม่เริ่มปล่อยวางแล้ว เราควบคุมเขาไม่ได้ ต่อให้พ่อแม่ดีขนาดไหน ถ้าเด็กมันเป็นไปดึงไม่อยู่เหมือนกัน

หญิง : หญิงรู้สึกว่าการจะมีก็แล้วแต่บุญ แล้วแต่กรรม แล้วแต่วาสนาเลย ถ้ามีต้องมีธรรมชาติเท่านั้น นั่นแปลว่าเขาส่งมาให้เรามี แต่ ณ วันนี้เมื่อมันไม่เกิดและมันไม่มี แปลว่าหญิงอาจจะจบที่ชาตินี้แล้วหรือเปล่า



ก่อนหน้าที่จะแต่งงานพี่หญิงทำทุกอย่างเพื่อแม่น้อย ปลดหนี้ทุกคนก็ทราบดีว่าเป็น 10 ล้าน?
แม่น้อย : ทุกคนพูดว่าคุณรู้ตัวไหม คุณได้ลูกสุดประเสริฐจริงๆ ก็บอกว่าขอบใจมากที่ให้เกียรติกับน้อย แต่จริงๆ น้อยจะบอกตามตรง น้อยโคตรโชคดี ถูกรางวัลไม่รู้กี่พันล้านได้ลูกคนนี้มา

ใจลึกๆ แม่รูัสึกผิดมาก ?
แม่น้อย : รู้สึกผิดมาก ทำแต่เรื่องให้ลูกตลอด เดี๋ยวใช้หนี้ให้ จะทำยังไงให้ลูกเรามึความสุขที่สุด เพราะฉะนั้นแม่ถึงบอกว่าใครก็ได้ที่รักได้ครึ่งของฉันเอาไปเลย

แม่อยากจะบอกอะไรลูก ?
แม่น้อย : ทำให้แม่แค่นี้พอแล้ว ต่อไปลูกก็ตกตรวงความสุขให้มากๆ ไม่มีแม่ก็ไม่ว่า แต่ที่แม่พูดไปคืออย่าห้ามแม่ทำส้มตำ แม่ก็จะไม่ขัดขืนอะไรทั้งสิ้น แม่หมดแรง แม่ก็หยุดเอง เพราะเราไม่ได้ลำบากอะไรมากมาย ลูกดูแลแม่อย่างดีที่สุด แม่ขอบคุณตุลย์ด้วย ไม่ต้องมาทำอะไรให้แม่มากแล้ว ดูแลซึ่งกันและกัน ลูกเป็นแบบนี้ตลอดไป แม่ชื่นใจที่สุดแล้ว แม่รักลูก ไม่ได้รักพี่ตุลย์คนเดียว ไม่ต้องน้อยใจ ขอบคุณแม่เกตุมากๆ ที่เรามาร่วมเป็นครอบครัวเดียวกัน ถึงน้อยจะไม่สบายเหมือนแม่เกตุ แต่ก็ทุกสิ่ง ทุกอย่าง น้อยได้สิ่งที่ดีมา ก็ขอบคุณมากๆ ที่ให้เกียรติกับครอบครัวของน้อย

หญิง : หญิงเห็นแม่เป็นคนแบบเต็มที่กับทุกอย่าง แต่เหมือนเขาทำอะไรมันไม่เป็นหรือเทียบเท่ากับแรงที่เขาลงไป อยากให้เขาได้เจอความสำเร็จในเรื่องที่รัก เรื่องส้มตำ เรื่องร้าน ถ้าหญิงมีกำลัง มีแรง หญิงก็จะพยายามช่วยเขาให้มากกว่านี้ หญิงก็รู้ในใจลึกๆ เรามีความต่อต้านในสิ่งที่เขาทำ อยากให้เขาพักแล้ว แต่ว่าเราก็รู้ว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่เขายังเชื่อมั่นในตัวเอง มันเป็นความเชื่อมั่นของเรา เราไม่อยากไปทำลายหรอก อยากให้เขาทำให้เต็มที่ไปเลย และหลักๆ ให้ดูแลสุขภาพ เพราะช่วงหลังเห็นเขาทำงานหนัก มันจะมีเรื่องแบบเจ็บขา แล้วชอบใส่ถุงเท้าเดินในบ้าน มันลื่น หญิงก็บอก อะไรที่เราเตือนอยากให้ฟังบ้าง เขาก็แบบทุกวันนี้ใส่ถุงเท้านั่งเล่นในบ้าน เข้าห้องน้ำมันลื่น เขาเผลอล้มหลายที

แม่น้อย : แม่บอกเด็กไม่ต้องบอกน้องหญิง แม่แข็งแรงไม่ได้เป็นอะไรมากมาย มันรักแม่ที่สุด หญิงคือชีวิตแม่ อยู่เพื่อลูกจริงๆ

หญิง : ดูแลสุขภาพ อยู่กันไปนานๆ

แม่น้อย : ลูกก็เหมือนกัน ให้รักกันตลอดชีวิตนะ รักกันให้มากๆ แม่ฝากลูกแม่ไว้ด้วย

ล่าสุดแม่มีฝ้าในปอด ?
แม่น้อย : มันมีจุดเล็กๆ จะเป็นวัณโรคเหรอ มันก็มี เอ้า...น้อยไม่สูบบุหรี่ น้อยไม่กินเหล้า คุณน้อยเล่นตลกมากี่ปีแล้ว สมัยก่อนมันจะสะสม คนที่อยู่ใกล้ควันบุหรี่

หมอบอกการรักษาไหม ?
หญิง : หลักๆ ก็คือเลี่ยงทุกอย่างที่แพ้ พวกไรฝุ่น ที่นอนเขาต้องทำความสะอาดบ่อยๆ มีช่วงปีแรกๆ ห้ามไปที่ชื้น ที่เป็นหนักไอหนักก็ไม่ได้ไปต่างประเทศ จนหลังโควิดพาไปญี่ปุ่นเริ่มดีขึ้น แล้วเขาก็เริ่มไม่ค่อยไอ

ขนหมาแพ้ไหม ?
แม่น้อย : ขนหมาก็แพ้

หญิง : ไม่แพ้

แม่น้อย : มันรักแม่ มันเลยเอาหมาไปอยู่ข้างนอก

หญิง : กลางวันอยู่ข้างนอก แต่กลางคืนให้นอนในห้อง แล้วมีห้องที่อยู่ในบ้านให้เขานอน เป็นห้องที่มีกระจก มีหน้าต่าง เปิดพัดลมให้เขา ต้องแยกส่วนกับห้องแม่ ต้องมีกระจกกั้นอีกที



คลิปสัมภาษณ์ แม่น้อย - หญิง - ตุลย์
https://youtu.be/3ExKcJNddAU