ตัดถนนใหม่เลี่ยงป่าอ่างฤาไนหวังลดสัตว์ตายบนถนน(คลิป)

กรมอุทยานฯ ลงพื้นที่สำรวจถนนเส้นใหม่ระยะทาง 66.68 กม.ใช้แทนถนนเดิมสาย 3259 ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา หวังลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุกับสัตว์ป่า คาดเสร็จในปีนี้

เมื่อวันที่ 27 ก.พ. นายเดชา นิลวิเชียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน น.สพ.ภัทรพล มณีอ่อน สัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายคมกริช เศรษบุบผา ผอ.ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ พร้อมสื่อมวลชนได้ลงพื้นที่บริเวณถนนหมายเลข 3259 ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา และถนนสายคลองตะเคียน-อ่างเสือดำ-นายาว-หนองเรือ ซึ่งเป็นถนนสายใหม่ที่จะใช้แทนถนนเดิม สาย 3259 เพื่อเลี่ยงบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ซึ่งถนนเส้นใหม่นี้จะช่วยลดอุบัติเหตุได้ทั้งคนและสัตว์ป่า

นายเดชา กล่าวว่า ถนนสาย 3259 ที่เป็นถนนเส้นเดิมนี้ มีบางส่วนตัดผ่านเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนทางตอนเหนือ เป็นระยะทาง 15 กม. เป็นถนน 2 ช่องจราจร เชื่อมต่อกับ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา กับ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ซึ่งเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2532 โดยใช้เป็นถนนด้านความมั่นคง การสัมปทานป่าไม้ในยุคนั้น และการอพยพคนออกจากป่า และต่อมาในปี 2540 ได้มีการส่งมอบถนนเส้นนี้ให้กรมทางหลวงเป็นผู้แล

ถนนสาย 3559 เส้นนี้ ได้มีการเก็บสถิติข้อมูลปริมาณและความเร็วของยานพาหนะที่ใช้เส้นทางสาย 3259 ช่วงผ่านป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ระหว่างเดือนต.ค. 2541 ถึงเดือน ก.ย. 2542 พบว่า มีรถวิ่งผ่านจำนวน 299,298 คัน เป็นรถบรรทุกเล็ก(ปิคอัพ) รวมทั้งรถกระบะดัดแปลง และรถตู้ 179,455 คัน (ร้อยละ 59.96) รถมอเตอร์ไซด์ 47,832 คัน (ร้อยละ 16.65) รถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป และรถพ่วง 43,806 คัน (ร้อยละ 14.64) รถเก๋ง 12,855 คัน (ร้อยละ 4.30) รถบัส 12,663 คัน (ร้อยละ 4.23) และรถที่ใช้ในภาคการเกษตร 687 คัน

ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ส.ค.2555 ได้มีมติ ครม. ให้ปิดการจราจรถนนเส้นดังกล่าวที่ผ่านเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน โดยกำหนดเป็นช่วงเวลา เช่น ตั้งแต่ 21.00 น. ถึง 05.00 น. ซึ่งบันทึกจำนวนสัตว์ป่าที่ได้รับผลกระทบ ในปี 2550 ผลการศึกษาจากข้อมูลเมื่อเทียบกับข้อมูล ก่อนหน้าในช่วงปี 2541-2542 คาดว่าสัตว์ป่ารอดจากการถูกรถชน 10,969 ตัว หรือคิดเป็น 76.31 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการรักษาชีวิตสัตว์ป่าได้เป็นจำนวนมาก แต่จากข้อมูลกลับพบว่าแม้จะมีการกำหนดเวลาปิด-เปิด แต่กลับพบรถวิ่งบนถนนดังกล่าวมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในเวลากลางวัน รวมทั้งสิ้น 299,298 คันเฉลี่ยวันละ 820 คัน และเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับผลการศึกษาปริมาณรถยนต์ ระหว่างปีพ.ศ. 2541 กับ พ.ศ.2556 พบว่า ปริมาณรถยนต์ ปี 2541 รวม 299,298 คัน ปริมาณรถยนต์ ปี 2556 รวม 569,764 คัน ซึ่งจากข้อมูลพบว่ามีปริมาณรถเพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่า และใช้ความเร็วที่เพิ่มมากขึ้นตลอด ดังนั้นจึงมีควรมีการจัดการถนน และวางแผนการใช้เส้นทางนี้โดยเร็ว

นายเดชา กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการการลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการปิดถนนสายนี้ เพื่อลดความสูญเสียของทั้งสัตว์ป่าและผู้สัญจรบนถนน พบว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เพราะทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการทั้งการจำกัดความเร็ว และการทดลองปิดถนน ซึ่งเสียงประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย เพราะช่วยลดผลกระทบต่อสัตว์ป่าและผู้ใช้เส้นทาง ซึ่งจากสถิติตั้งแต่ปี 2532 มีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนแล้ว 7 คน ในขณะที่ช่วงปี 2535-2551 มีช้างป่าเสียชีวิตจำนวน 20 ตัว ในจำนวนนี้เกิดจากถูกรถเฉี่ยวชน 3 ตัว ซึ่งช่วงเวลาที่ถือว่าอันตรายทั้งคนและช้าง คือ ตั้งแต่ 21.00-02.00น. เพราะเป็นช่วงที่รถน้อยและมักจะใช้ความเร็ว และเป็นช่วงที่ช้างมักจะออกหากินและเดินผ่านถนนดังกล่าวบ่อยครั้ง