สะพัดรัฐบาล พท. 315 เสียงโหวต "เศรษฐา"เป็นนายกฯ "บิ๊กป้อม" ส่ง "พัชรวาท" นั่งรองนายกฯ ส.ส.9 คนได้ 1 เก้าอี้ พท. 16 เก้าอี้คุมกระทรวงเศรษฐกิจ ภท. 8 เก้าอี้ 4 ว่าการ 4 รมช. พปชร. 5 เก้าอี้ 2 รมว. 3 รมช. คาด "ธรรมนัส" นั่ง รมช.มหาดไทย รทสช. 4 เก้าอี้ เล็ง ก.พลังงาน
เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดในการเจรจาร่วมรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ จะปิดดีลที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นพรรคสุดท้าย รวม 315 เสียง โดยจะไม่มีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งเสียง 315 เสียงประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 141 เสียง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 71 เสียง พรรคพลังประชารัฐ 40 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) 10 เสียง พรรคประชาชาติ (ปช.) 9 เสียง พรรคเพื่อไทรวมพลัง (พทล.) 2 เสียง พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) 2 เสียง ส่วนพรรคเสรีรวมไทย (สร.) 1 เสียง พรรคพลังสังคมใหม่ 1 เสียง พรรคท้องที่ไทย 1 เสียง พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง ซึ่งทั้ง 315 เสียง จะร่วมโหวตสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือว่ามีเสียงเกินครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร และจะต้องหาเสียง ส.ว.มาสนับสนุนอีก 59 เสียง จะเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภาคือ 374 เสียง ในการโหวตนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับในการเจรจาแบ่งสัดส่วน ครม. คือนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี 35 คน ขณะนี้ยังเป็นเพียงการแบ่งสัดส่วนโควตาตามจำนวน ส.ส.ของแต่ละพรรคเท่านั้น ยังไม่ได้มีการระบุกระทรวง โดยภาพรวมพรรคเพื่อไทยจะดูแลกระทรวงเศรษฐกิจทั้งหมด อาทิ กระทรวงการคลัง คมนาคม พาณิชย์ เกษตรและสหกรณ์ พลังงาน รวมถึงกระทรวงด้านสังคมคือ มหาดไทย ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นต้น การแบ่งรัฐมนตรีเบื้องต้น จะเป็นสัดส่วนดังนี้ พรรคเพื่อไทย 16 เก้าอี้ พรรคภูมิใจไทย ได้ รองนายกรัฐมนตรี รมว. 4 เก้าอี้ รมช. 4 เก้าอี้ พรรคพลังประชารัฐ จะได้ รองนายกรัฐมนตรี รมว. 2 เก้าอี้ รมช.3 เก้าอี้ พรรครวมไทยสร้างชาติ จะได้ รมว.2 เก้าอี้ รมช.2 เก้าอี้ ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคประชาชาติ จะได้ รมว.พรรคละ 1 เก้าอี้ โดยใช้สูตร สส. 9 คนได้ 1 เก้าอี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการตั้งบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง ในส่วนพรรคภูมิใจไทย คาดว่า จะดูแลงานสังคม และแนวโน้มจะได้ดูกระทรวงสาธารณสุขเช่นเดิม และอาจได้เก้าอี้ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ( พม.) อุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม ( อว.) และวัฒนธรรม ขณะที่ ชทพ.ยังยืนยันจะขอดูกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( ทส. ) ส่วนพรรคประชาชาติ คาดว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค เป็น รมว.ยุติธรรม เช่นเดิม การต่อรองตัวกระทรวงยังไม่ลงตัวนัก โดย รทสช.ต้องการกระทรวงพลังงานที่พรรคเพื่อไทยเองก็ต้องการ ซึ่งแคนดิเดต รมว.พลังงานของ รทสช. คือ นายณอคุณ สิทธิพงศ์ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน
รายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ นั้น ได้ 3 รมช. โดยคาดว่า 1 ในนั้นคือ รมช.มหาดไทย ซึ่งแนวโน้มจะเป็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาธิการพรรค ขณะที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้า พปชร.คาดว่าจะได้ดำรงตำแหน่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( ทส. ) แม้ว่า ชทพ.ต้องการเก้าอี้ รมว.กระทรวงนี้ และ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง จะดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการเช่นเดิม ส่วน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษา พปชร. จะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะควบตำแหน่งอะไรหรือไม่ โดยรายชื่อกระทรวงจะมีความชัดเจนหลังจากโหวตนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้นลง ซึ่งแต่ละพรรคก็ต้องไปจัดตามความเหมาะสมและเงื่อนไขปัจจัยของและพรรคต่อไป
“จากการพูดคุยเป็นที่แน่นอนว่าบุคคลที่มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีจะไม่มีชื่อของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รวมถึงจะไม่มีบรรดาแกนนำ กปปส. เข้าร่วมเป็นรัฐมนตรี "ครม.เศรษฐา 1" ด้วย” รายงานข่าว ระบุ