สปสช. ชวนคนไทยรับ "ยาคุมกำเนิด-ถุงยาง" ฟรีป้องกันตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
เมื่อวันที่ 11 ส.ค.66 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า แนวทางในการป้องกันและควบคุมโรคจำเป็นต้องให้บริการที่ครอบคลุมอย่างทั่วถึง ภายหลังจากที่ประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566 มีผลบังคับใช้ ทำให้บริการภายใต้สิทธิประโยชน์บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ครอบคลุมการดูแลคนไทยทุกคนทุกสิทธิรักษาพยาบาลทั่วประเทศ ทั้งนี้ รวมถึงการให้บริการยาเม็ดคุมกำเนิดและถุงยางอนามัย เพื่อป้องกันภาวะตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จากเดิมเป็นการให้บริการเฉพาะผู้มีสิทธิบัตรทองก่อน เนื่องจากอยู่ระหว่างรอความชัดเจนในข้อกฎหมาย แต่ในวันนี้คนไทยทุกสิทธิการรักษาพยาบาลสามารถขอรับยาเม็ดคุมกำเนิดและถุงยางอนามัยโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้แล้ว ตามหลักเกณฑ์การให้บริการของ สปสช.
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ในการรับบริการยาเม็ดคุมกำเนิดนั้น เป็นการให้บริการหญิงไทยอายุระหว่าง 15-59 ปี ครั้งละไม่เกิน 3 แผง คนละไม่เกิน 13 แผงต่อปี เข้ารับบริการได้ที่หน่วยบริการระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้แก่ หน่วยบริการปฐมภูมิที่เข้าร่วมโครงการ รพ.สต. โรงพยาบาลรัฐ ศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรม คลินิกการพยาบาลฯ และร้านยา เป็นต้น
วิธีรับบริการ มี 2 วิธี ดังนี้
1.รับบริการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ให้เลือกที่เมนูกระเป๋าสุขภาพ คลิกสิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค คลิกยาเม็ดคุมกำเนิด จะปรากฏข้อมูลเงื่อนไขการรับบริการ จากนั้นให้คลิกดูหน่วยบริการ ซึ่งท่านสามารถค้นหาหน่วยบริการและนัดวันเพื่อไปรับยาคุมกำเนิดได้ หลังจากนั้นให้ไปรับยาคุมกำเนิดที่หน่วยบริการตามวันที่นัดไว้ในระบบ
2.กรณีไม่มีสมาร์ทโฟน ให้นำบัตรประชาชน มาดำเนินการลงทะเบียน เพื่อรับยาคุมกำเนิด ณ หน่วยบริการที่เข้าร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ส่วนการรับถุงยาอนามัยนั้น เป็นการให้บริการคนไทยทุกคน รับครั้งละ 10 ชิ้นต่อคน/สัปดาห์ และไม่เกิน 52 ครั้ง/คน/ปี โดยมีให้เลือก 4 ไซส์ คือ 49 มม., 52 มม., 54 มม. และ 56 มม. สำหรับขึ้นตอนการรับถุงยางอนามัยนั้น สามารถรับบริการได้ที่หน่วยบริการในระบบบัตรทองที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเช่นกัน โดยลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังเช่นเดียวกับวิธีการรับบริการยาคุมกำเนิด โดยเลือกเมนูกระเป๋าสุขภาพ คลิกที่สิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค และเลือกคลิกที่ถุงยางอนามัย ทำการเลือกหน่วยบริการและนัดหมายการรับบริการ จากนั้นให้ไปรับถุงยางอนามัยตามวันที่นัดไวในระบบ
นอกจากนี้ วันนี้คนไทยทุกคนทุกสิทธิ อายุ 15 ปีขึ้นไป สามารถนำบัตรประชาชนไปรับถุงยางอนามัยผ่านตู้จ่ายถุงยางอนามัยอัตโนมัติได้เช่นกัน ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ บมจ.สบายเทคโนโลยี ขณะนี้ติดตั้งแล้ว 12 จุดในพื้นที่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี สระบุรี และชลบุรี (พัทยา)
“วันนี้คนไทยทุกคนสามารถรับบริการยาเม็ดคุมกำเนิดและถุงยางอนามัย สิทธิประโยชน์จาก สปสช.ได้แล้ว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์สำหรับประชาชนเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ รวมถึงการตั้งครรภ์ในกลุ่มวัยรุ่นที่ยังไม่มีความพร้อม” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว
สถานที่จุดตั้งตู้จ่ายถุงยางอนามัยอัตโนมัติ มีดังนี้
1.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพ
2.คลินิคเวชกรรมอารีรักษ์ คลองเตย กรุงเทพฯ
3.มหาวิทยาลัยรังสิต ตึกเภสัชศาสตร์ ปทุมธานี
4.หมู่บ้านรังสิตซิตี้ (แฟลตบางทอง) ปทุมธานี
5.ท่าเรือแหลมบาลีฮาย จ.ชลบุรี (2 ตู้)
6.โรงพยาบาลเมืองพัทยา จ.ชลบุรี
7.เซ็นทรัลพัทยา ชั้น 1 และชั้น 6
8.เซ็นทรัล มารีน่า พัทยา ชั้น 1
9.ตลาดต้นสัก อ.เมือง จ.นนทบุรี
10.ห้างสุขอนันต์ ปาร์ค สระบุรี