"สมศักดิ์"นำทีม ส.ส.พท.ลุยสุโขทัยติดตามการแก้ปัญหาภัยแล้งด้วยการสร้างธนาคารน้ำใต้ดิน เยี่ยมชมโครงการโคล้านตัว
เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 66 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม น.ส.สกุณา สาระนันท์ ส.ส.สกลนคร นายนิพนธ์ คนขยัน ส.ส.บึงกาฬ น.ส.ธัญธารี สันตพันธ์ ส.ส.อุบลราชธานี นายภาควัต ศรีสุรพล นายสุรพจน์ เตาะเจริญสุข น.ส.วิภาณี ภูคำวงศ์ ส.ส.ขอนแก่น นายเชิงชาย ชาลีรินทร์ นายศิวะ พงศ์ธีระดุลย์ ส.ส.ชัยภูมิ น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ นายวารุจ ศิริวัฒน์ นายรวี เล็กอุทัย ส.ส.อุตรดิตถ์ นายนพพล เหลืองทองนารา น.ส.พิมพ์พิชชา ชัยสุภกิจเจริญ ส.ส.พิษณุโลก และนายสมเจตน์ แสงเจริญรัตน์ ส.ส.เลย ลงพื้นที่ จ.สุโขทัย เพื่อติดตามการแก้ปัญหาภัยแล้งด้วยการสร้างธนาคารน้ำใต้ดิน รวมถึงเยี่ยมชมโครงการโคล้านตัว โดยมีนางพรรณสิริ กุลนาถศิริ นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง น.ส.ประภาพร ทองปากน้ำ และนายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล ส.ส.สุโขทัย และนายมนู พุกประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย (อบจ.) นายเขตพงศ์ กุลนาถศิริ รองนายก ให้การต้อนรับ
เมื่อคณะเดินทางมาถึง ได้เดินทางไปสักการะพระพุทธรัตนสิริสุโขทัย บริเวณเกาะกลางแผ่นดินรูปหัวใจ (ทุ่งทะเลหลวง) ก่อนที่คณะจะเดินทางต่อไปยัง อบจ.สุโขทัย เพื่อรับฟังบรรยายสรุปการแก้ปัญหาภัยแล้งด้วยการสร้างธนาคารน้ำใต้ดิน ขณะเดียวกันในช่วงบ่าย ยังได้เดินทางไปเยี่ยมประชาชนและชมโครงการโคล้านตัว ที่ ต.บ้านไร่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย
นายสมศักดิ์ กล่าวว้า การสร้างทะเลหลวงแห่งนี้ ได้รับงบประมาณ 1,000 ล้านบาท ในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยเวลานั้นถูกโจมตีเป็นจำนวนมากว่า โครงการนี้จะทำให้น้ำท่วมในตัวเมืองสุโขทัย แต่หากเวลานั้นเราไม่ก่อสร้าง หรือผลักดัน จ.สุโขทัย ก็จะมีปัญหาในเรื่องน้ำ และความแห้งแล้งที่มากกว่านี้ แต่วันนี้น้ำในทุ่งทะเลหลวง สามารถผลิตน้ำประปาเลี้ยงประชาชนได้ถึง 5 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.คีรีมาศ อ.ศรีสำโรง อ.กงไกรลาศ และ อ.บ้านด่านลานหอย
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนดีใจและยินดีต้อนรับคณะ สส.พรรค พท. ที่เดินทางมาดูงานใน จ.สุโขทัย เพราะถ้าเราไม่เข้าถึง ไม่รับฟังปัญหาคนทั่วประเทศ โดยเฉพาะคนที่ลำบาก ที่เข้าไม่ถึงการบริการของรัฐ รวมถึงความเหลื่อมล้ำที่มีปัญหา เราจึงจำเป็นต้องยืนเคียงข้างประชาชน ซึ่งอะไรที่เราไม่รู้ ก็ต้องหาผู้รู้มาช่วย โดยบ้านเมืองกำลังมีการเปลี่ยนแปลง พวกเราเป็นคนไทยยังต้องอยู่กับการเกษตรไปตลอดชีวิต ดังนั้นอย่าไปทะเลาะกันให้บ้านเมืองวุ่นวาย เพราะความลำบากจะตกอยู่กับประชาชน
“ผมเคยทำไร่ชาต้นแบบ เพื่อจะให้พี่น้องชาวสุโขทัย มีอาชีพใหม่ แต่ก็ยอมรับว่า ไม่สำเร็จ เพราะเป็นดินเหนียวในบริเวณที่ปลูก ผมก็สู้ต่อไม่ยอมแพ้ โดยดึงข้าราชการเข้ามาช่วย เพื่อพัฒนาดินว่า ตรงไหนในจังหวัดควรปลูกอะไร หรือปัญหาที่มาใหม่ คือ เอลนีโญ อากาศจะร้อนและฝนไม่ตกภายใน 3 ปี เราต้องหาทางแก้ไข เพื่อเตรียมรับมือ เราต้องทำบ่อบาดาล การทำเอาน้ำลงดิน หรือ ธนาคารน้ำใต้ดิน บางคนก็บอกว่าทำไม่ได้จริงบ้าง แต่หน่วยงานรัฐอย่างกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ก็เข้ามาสนับสนุนให้ชุมชน โดยเราเป็น สส. ต้องยืนเคียงข้างประชาชน อะไรที่ทำได้ต้องทำ รวมถึงเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหา เพราะประชาชนเลือกพวกเรามาเพื่อแก้ไขปัญหา” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า การผลักดันโครงการโคล้านตัว เริ่มมาแล้วกว่า 20 ปี ตั้งแต่ตนเป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ แต่ต้องยอมรับเวลานั้นไม่สำเร็จ จนถูกติฉินนินทา บ้างก็ว่าเพ้อเจ้อ แต่ตนยังมองว่าโครงการนี้ช่วยประชาชนได้ จึงได้เดินหน้าต่อ และวันนี้ก็สำเร็จในระดับหนึ่ง ซึ่งเราวัดจากประชาชนที่นำวัวไปเลี้ยง เวลานี้บางครอบครัวมีวัวมูลค่าหลักแสนบาท ขณะเดียวกันหลายพรรคการเมือง ก็ยังมีนโยบายโคล้านตัวที่ตนเคยคิด และเวลานี้ ภาครัฐอย่างกองทุนหมู่บ้าน ก็หันมาสนับสนุนให้แก่ประชาชน รวมถึงรัฐบาล ก็ได้อนุมัติเงินแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท โดยโครงการนี้เดินหน้าไปได้ เพราะคนแบบตนไม่ยอมแพ้ และทำงานแบบนอกกรอบ