กองทัพและตำรวจไนจีเรีย ขัดแย้งหนัก โยนความรับผิดชอบให้อีกฝ่าย หลังเด็กนักเรียนหญิงกว่า 100 คน ถูกลักพาตัวไป ไม่ทราบชะตากรรม
เมื่อวานนี้ กองทัพและตำรวจไนจีเรีย มีความคิดเห็นขัดแย้งกันกรณีการกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยในเมืองดัปชี รัฐโยเบ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งมีเด็กนักเรียนหญิง 110 คน ถูกกลุ่มติดอาวุธโบโก ฮาราม ลักพาตัวไป โดยกองทัพออกแถลงการณ์ฉบับหนึ่ง ยอมรับว่า ทหารถอนกำลังออกจากเมืองดัปชี ก่อนเด็กนักเรียนถูกจับตัวไปจากโรงเรียนเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นการลักพาตัวครั้งใหญ่สุด ตั้งแต่โบโก ฮารามลักพาตัวเด็กนักเรียนหญิงมากกว่า 250 คนในเมืองชีบ็อกเมื่อปี 2557 อีกทั้งยังก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความสามารถของกองกำลังรักษาความมั่นคง ในการต่อสู้กับกลุ่มโบโก ฮาราม ซึ่งรัฐบาลมักอ้างว่าได้รับชัยชนะหลายครั้ง
ออนเยมา วาชุควู โฆษกกองทัพไนจีเรีย ระบุว่า ทหารที่ประจำการอยู่ในเมืองดัปชีก่อนหน้านี้ ถูกย้ายไปประจำการที่เมืองคานามา หลังเกิดเหตุโจมตีทหารขึ้น โดยเมืองคานามาอยู่ใกล้พรมแดนติดกับประเทศไนเจอร์ ห่างจากเมืองดัปชีประมาณ 120 กิโลเมตร แต่การโยกย้ายทหารก็ด้วยสมมติฐานที่ว่า เมืองดัปชีมีความสงบสุขแล้ว และได้มอบหน้าที่ในการรักษาความมั่นคงในเมืองดัปชีให้สำนักงานตำรวจไนจีเรียที่ตั้งอยู่ในเมืองแห่งนี้แล้ว
ส่วนซูโมนู อับดุลมาลีกี ผู้บัญชาการตำรวจของรัฐโยเบ ออกแถลงการณ์ตอบโต้ในเวลาต่อมาว่า คำกล่าวอ้างมอบหน้าที่ให้ตำรวจนั้น ไม่เป็นความจริง, เป็นการยกเมฆและสร้างความเข้าใจผิด
อย่างไรก็ตาม เด็กนักเรียนหญิงที่หายตัวไป 110 คน จนถึงขณะนี้ ยังไม่ทราบชะตากรรม