"ธนกร"ซัด "ก้าวไกล" บ้านเมืองไม่ใช่เด็กเล่นขายของ (มีคลิป)

2023-07-24 12:45:01

"ธนกร"ซัด "ก้าวไกล"  บ้านเมืองไม่ใช่เด็กเล่นขายของ (มีคลิป)

Advertisement

"ธนกร"ซัด "ก้าวไกล"  ไม่ยอมออกจากพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล บ้านเมืองไม่ใช่เด็กเล่นขายของ  

เมื่อวันที่ 24 ก.ค.66.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร​ วังบุญคงชนะ​ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ​ กล่าวถึงท่าทีพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังร่วมหารือกับพรรคเพื่อไทยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่าเป็นการส่งสัญญาณร่วมงานทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่​ ว่า​ เป็นไปตามที่นายพีระพันธุ์​ สาลีรัฐวิภาค​ หัวหน้าพรรคได้แสดงจุดยืนไปแล้ว แต่จะร่วมกันหรือไม่ต้องมาหารือร่วมกันภายในพรรคก่อน ซึ่งจะมีการประชุมส.สในวันพุธที่ 26 เวลา 16.00 น.​โดยหัวหน้าและเลขาธิการพรรค​ จะนำผลการหารือมาพูดคุยในที่ประชุมสส. และกรรมการบริหารพรรค ย้ำว่าก่อนหน้านี้หัวหน้าพรรคเคยแสดงเจตจำนงค์ไปแล้วว่ามีแนวคิดอย่างไร​

เมื่อถามถึงทิศทางแนวโน้มของ ส.ส.รวมไทยสร้างชาติใน​ขณะนี้มีความคิดเห็นอย่างไร นายธนกร กล่าวว่า ตนมองว่า ส.ส.ภายในพรรคเป็นเอกภาพ​ ฉะนั้น การพูดคุยเจรจาถ้ามีเงื่อนไขทำเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ตนก็คิดว่า ส.ส.ของพรรคไม่มีปัญหา

ส่วนได้มีการหารือกับ ส.ส.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกฯและรมว.กลาโหม​ ในฐานะอดีตประธานยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติแล้วหรือไม่หลังการหารือร่วมกับพรรคเพื่อไทย​ นายธนกร กล่าวย้ำว่า​ พล.อ.ประยุทธ์​ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพรรคแล้ว แต่เท่าที่ตนได้พูดคุยและทำงานกับพล.อ.ประยุทธ์อยู่​ แม้จะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคแล้วนั้น​ ซึ่งการที่พรรครวมไทยสร้างชาติไปพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ได้ว่าอะไร ยืนยันว่าการที่พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศวางมือทางการเมืองไม่เกี่ยวข้องกับการเปิดทางให้พรรครวมไทยสร้างชาติ ไปร่วมทางทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด​ เนื่องจากที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ ก็เปรยมาตลอดว่า หากถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะต้องวางมือ และไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับทางการเมือง ซึ่งเป็นแนวทางที่พลเอกประยุทธ์ คิดไว้ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เนื่องจากทำงานให้ประเทศชาติมากว่า 8-9 ปีถึงเวลาที่เหมาะสมที่ท่านต้องพักผ่อน และหาเวลาไปทำประโยชน์ให้ประเทศชาติในมิติด้านอื่นๆ ซึ่งตนก็เชื่ออยู่แล้วว่าพล.อ.ประยุทธ์พร้อมที่จะทำงานให้ประเทศชาติ

เมื่อถามถึงแนวคิดของ นพ.ชลน่าน​ ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย​ ออกมาระบุว่าหากพรรคเพื่อไทยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ก็เป็นหน้าที่ของพรรคในลำดับที่ 3 จะต้องจัดตั้งรัฐบาล จะถือเป็นการส่งสัญญาณว่าพรรคเพื่อไทยไม่สามารถจะตั้งรัฐบาลได้ใช่หรือไม่ นายธนกร​ ระบุว่า​ ตามหลักการพรรคอันดับ 1 จัดตั้งไม่ได้ก็ต้องเป็นพรรคในลำดับที่ 2 และหากพรรคในลำดับที่ 2 ไม่สามารถจัดตั้งได้ก็เป็นพรรคลำดับที่ 3 เป็นไปตามหลักการทั่วไป​ ซึ่งตนก็เห็นใจพรรคเพื่อไทย เหมือนมติของ 8 พรรคร่วมให้ไปแสวงหาคะแนนเพิ่ม ในแนวทางต่างๆ เมื่อพรรคเพื่อไทยไปแสวงหา แต่แกนนำพรรคก้าวไกลกลับเหน็บแนม​ และสมาชิกพรรคก้าวไกล มวลชนสนับสนุนก็บุกไปยังที่ทำการพรรคเพื่อไทย และมีการใช้แป้งเกิดเหตุการณ์อย่างเมื่อวาน​ ซึ่งตนมองว่าไม่เหมาะสม​

“เมื่อท่านเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลต้องเข้าใจระบอบประชาธิปไตย และควรทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคที่รักใคร่ชอบพอ เพราะบรรยากาศแบบนี้เหมือนท่านปล่อย ซึ่งมันเป็นทฤษฎี 2 ขา นำไปสู่ความขัดแย้งในที่สุด"นายธนกร กล่าว

นายธนกร  กล่าวด้วยว่า แกนนำจะตั้งรัฐบาลอันดับ 1 พอเป็นนายกฯไม่ได้​ ไม่มีใครเป็นได้แล้วหรือนอกจากนายพิธา​ ก็ไม่เข้าใจ เพราะที่ผ่านมาหากอันดับ 1 ตั้งไม่ได้ ก็อันดับ 2 ตั้งไป เป็นเรื่องปกติมากทางการเมือง และที่บอกว่ารอไปสัก 10 เดือน ส่วนตัวมองว่าเมื่อเลือกตั้งเสร็จกลไกการจัดตั้งรัฐบาล การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีก็ควรเดินหน้าไป ไม่ควร​ แม้มีอุปสรรคบ้าง เพราะมันเป็นการเมืองแบบรัฐสภาฯ​ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ ไม่ควรรอถึง 10 เดือนเพราะประเทศเสียหาย และประชาชนเฝ้ารอดูอยู่ และนักธุรกิจก็เฝ้ารอดูอยู่

เมื่อถามถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายภายในพรรคเพื่อไทย วานนี้จะทำให้ MOU​ 8 พรรคร่วมล่มหรือไม่​ นายธนกร​ ปฏิเสธว่า​ ตนไม่ทราบเนื่องจากเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย แต่ตนเห็นบรรยากาศแล้วที่มีการนำแป้งไปโรยนั้น ก็สงสารนายสันติ​ พร้อมพัฒน์ รมช.คลังเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เลอะแป้งไปถึงศีรษะ พร้อมระบุว่า มันไม่ควรมีบรรยากาศแบบนี้ เนื่องจากเป็นการเจรจาตามกรอบที่พรรคร่วมแตกพรรคได้มอบหมายให้พรรคเพื่อไทย​ ซึ่งในการเจรจาเบื้องต้นก็ต้องมีการพูดคุยว่าเขาคิดกันอย่างไร และมันยังไม่ได้ไปถึงจุดร่วมรัฐบาลกันเลย และเมื่อเกิดสถานการณ์อย่างนี้แล้วในอนาคตตนมองว่าก็อาจจะยุ่งยากเหมือนกัน

เมื่อถามย้ำว่าเหตุการณ์วานนี้เพื่อไทยควรจะบอกเลิกพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายธนกรปฏิเสธว่าเรื่องดังกล่าวตนไม่ขอก้าวล่วง พร้อมกับกล่าวว่าหากพรรคในลำดับ 1 ไม่สามารถจัดตั้งได้ก็ควรเป็นพรรคในลำดับที่ 2 หากพรรคลำดับ 2 ไม่ได้ก็ควรเป็นลำดับที่ 3 ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกข์พรรคการเมืองควรเข้าใจ และคิดว่าทุกพรรคที่ได้รับการเชิญไปพูดคุยก็เข้าใจ ไม่ใช่ว่าถูกเชิญไปพูดคุยแล้วจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อาจจะเป็นพรรคฝ่ายค้านก็ได้เราก็ไม่รู้ แต่นี่เป็นการเจรจาในเบื้องต้น 

เมื่อถามว่ามองอย่างไรในท่าทีของพรรคก้าวไกลที่ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมออกจากพรรคร่วมรัฐบาล​ นายธนกร​ ระบุว่า  แบบนี้มันเป็นเด็กเกินไปหรือเปล่า บ้านเมืองไม่ใช่เด็กเล่นขายของ เหมือนกับคนที่เป็นแฟนกัน หมั้นกันแล้วเขาก็เลิกกันได้ เหมือนพ่อแม่คลุมถุงชนมาอย่างนี้ วันหนึ่งเมื่อหมั้นกันแล้วพ่อแม่คลุมถุงชนมาเขาก็ยังเลิกกันได้เลย​ เพราะมันไม่ได้รักกันด้วยหัวใจไง ฉะนั้นคนที่จะแต่งงานกัน มันต้องมีความรักที่ออกมาจากใจ ไม่ใช่รักด้วยสมอง แต่ต้องรักด้วยหัวใจ"