"ส.ว.สมชาย"เสนอ พท.แถลงให้ชัด 11 ข้อ พรรคร่วมรัฐบาลต้องไม่มีนโยบายแก้ ม.112

2023-07-21 17:24:22

"ส.ว.สมชาย"เสนอ พท.แถลงให้ชัด  11 ข้อ พรรคร่วมรัฐบาลต้องไม่มีนโยบายแก้ ม.112

Advertisement

"ส.ว.สมชาย"เสนอ พท.แถลงให้ชัด  11 ข้อ พรรคร่วมรัฐบาลต้องไม่มีนโยบายแก้ ม.112 ถ้ายังหาข้อสรุปไม่ได้แนะเลื่อนประชุมรัฐสภาโหวตนายกฯออกไปก่อน

เมื่อวันที่ 21 ก.ค.66 นายสมชาย แสวงการ  สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้แชร์แถลงการณ์พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมโพสต์ข้อความผ่านเพจ สมชาย แสวงการ ระบุว่า ยินดีกับการฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของพรรคเพื่อไทย  ถือเป็นการเดินตามครรลองประชาธิปไตยที่ถูกต้อง  ดังนั้นจึงขอเสนอผ่านไปยังพรรคเพื่อไทยแกนนำใหม่  ควรแถลงประเด็นของพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องดำเนินการให้ชัดเจนอย่างน้อย ดังนี้

1)ตัวบุคคลที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี

2)พรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ที่ต้องมีนโยบายร่วมสำคัญในการเดินหน้าประเทศให้เจริญก้าวหน้า มีความสงบสันติสุข และไม่มีนโยบายใดๆจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือกลุ่มการเมือง กลุ่มอื่นๆที่พรรคการเมืองสนับสนุนในการแก้ไขประมวลกฎหมายมาตรา112 และมาตราอื่นๆที่เกี่ยวข้อง  หรือดำเนินการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่กระทบต่อสถาบันหลัก คือ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทั้งการกระทำโดยตรงของรัฐบาล  รมต. ส.ส. และเครือข่ายทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะกระทำเองหรือการให้การสนับสนุนใดๆอีกต่อไป

3)ไม่นิรโทษกรรมคดีทุจริตและคดี112 หรือคดีอาชญากรรมร้ายแรง

4)นโยบายด้านเศรษฐกิจนำพาสู่ประเทศพัฒนาแล้วที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม

5)นโยบายด้านการต่างประเทศที่ไม่กระทบความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาค

6)นโยบายด้านการทหารและความมั่นคงปลอดภัยของประเทศในทุกมิติ

7)นโยบายด้านปฏิรูปการศึกษา การพัฒนาสังคมเพื่อเด็กและเยาวชนให้ปลอดภัยจากสังคมสื่อโซเชี่ยลที่สร้างความเกลียดชังในปัจจุบัน

8)นโยบายด้านแรงงานและสวัสดิการสังคม

9)นโยบายกระจายความเจริญลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างครอบคลุมทุกมิติ

10)นโยบายแก้ไขปัญหา3จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยไม่สนับสนุนการทำประชามติแบ่งแยกดินแดนใดๆ

11)นโยบายแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นที่เป็นรูปธรรม

ถ้าพรรคเพื่อไทยแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ยังหาข้อสรุปร่วมให้ชัดเจนไม่ได้ ขอเสนอให้ทำเรื่องแจ้งต่อประธานรัฐสภา เพื่อเลื่อนการประชุมรัฐสภาในวันที่ 27 ก.ค.ที่จะถึงนี้ออกไปก่อน เพื่อจะได้เกิดความรอบคอบรัดกุมให้ชัดเจนในการให้สมาชิกรัฐสภาพิจารณาร่วมกันทำหน้าที่โหวตให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีคนที่30 ได้เสียทีครับ