กสม. ชี้สื่อรายงานข่าวละเมิดสิทธิ "น้องต่อ"

2023-07-21 16:50:03

กสม. ชี้สื่อรายงานข่าวละเมิดสิทธิ "น้องต่อ"

Advertisement

กสม. ชี้สื่อรายงานข่าวละเมิดสิทธิ "น้องต่อ" แนะองค์กรสื่อร่วมรับผิดชอบ ประสานลบข่าวทางอินเทอร์เน็ต 

เมื่อวันที่ 21 ก.ค.66  นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า จากการพิจารณากรณีสื่อมวลชนเสนอข่าวน้องต่อ อายุ 8 เดือนหายตัวไปจากบ้านพักในพื้นที่จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 5 ก.พ.66 ไม่เหมาะสม มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของเด็กและมารดาซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี รวมถึงครอบครัวและบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องสู่สาธารณะ โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับผลการตรวจดีเอ็นเอ และเปิดเผยใบหน้านั้น เห็นว่าเป็นลักษณะการเสนอข่าวที่เกินความจำเป็นเพื่อกิจการสื่อมวลชนโดยไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็ก และไม่เป็นไปตามจริยธรรมทางการประกอบวิชาชีพ ส่งผลกระทบต่อเกียรติยศ ชื่อเสียงของเด็กและครอบครัว ซึ่งการเปิดเผยอัตลักษณ์ของมารดาเด็กซึ่งต่อมากลายเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญาก็ถือว่าขัดต่อหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์ โดยข้อมูลของบุคคลนั้น ๆ จะยังอยู่ในระบบและสืบค้นทางอินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งนำไปสู่การตีตราอันกระทบต่อสิทธิที่จะถูกลืม ดังนั้นในชั้นนี้ จึงรับฟังได้ว่าการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชนกรณีดังกล่าว เป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิเด็กอันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว เกียรติยศ ชื่อเสียง และครอบครัว ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

นายวสันต์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ขอให้องค์กรสื่อระมัดระวังในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอาชญากรรมที่อาจนำไปสู่ผลกระทบเชิงลบต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น เพื่อยกระดับการใช้สิทธิและเสรีภาพในการสื่อสารของสังคมโดยรวมให้มีความรับผิดชอบร่วมกัน จึงมีข้อเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1. ให้สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติประสานกับผู้ให้บริการโปรแกรมการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ลบข่าวที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนกรณีดังกล่าวออก ให้มีนโยบายและแนวปฏิบัติการนำเสนอข่าวที่ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน กำชับให้สื่อในกำกับดูแลปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและขอความร่วมมือกับสื่อที่ไม่เป็นสมาชิกให้ตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับบุคคลที่เป็นข่าว 2. ให้สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติกำชับการนำเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์และวิทยุ ให้ระมัดระวังไม่นำเสนอข่าวที่เป็นการละเมิดสิทธิเด็กและสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว เกียรติยศ ชื่อเสียงและครอบครัวของบุคคลที่เกี่ยวข้อง และให้แก้ไขเยียวยากรณีเกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน และ 3.ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำชับผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกระดับเผยแพร่ข้อมูลรูปคดีเท่าที่จำเป็น ต้องระวังการกระทบสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว เกียรติยศ ชื่อเสียง และครอบครัวของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนได้