นิวยอร์ก, 19 ก.ค. (ซินหัว) — การศึกษาใหม่นำโดยคณะนักวิจัยจากคณะสาธารณสุขศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยบอสตัน (BUSPH) ระบุว่าจำนวนผู้เสียชีวิต 1.1 ล้านรายในสหรัฐฯ เมื่อปี 2021 อาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ หากสหรัฐฯ มีอัตราการเสียชีวิตคล้ายกลุ่มประเทศร่ำรวยอื่นๆ
การศึกษาที่เผยแพร่ในวารสารพีเอ็นเอเอส เน็กซัส (PNAS Nexus) เรียกการเสียชีวิตส่วนเกินเหล่านี้ว่า “ชาวอเมริกันที่หายไป” เนื่องจากผู้เสียชีวิตเหล่านี้อาจเป็นผู้ที่ยังคงมีชีวิตอยู่หากอัตราการเสียชีวิตของสหรัฐฯ เท่ากับกลุ่มประเทศเทียบเคียง
เมื่อเปรียบเทียบอัตราการเสียชีวิตเฉพาะช่วงอายุในสหรัฐฯ กับอีก 21 ประเทศร่ำรวย ระหว่างปี 1933-2021 พบว่าอัตราการเสียชีวิตในปัจจุบันของสหรัฐฯ สูงกว่าประเทศร่ำรวยอื่นๆ เป็นอย่างมาก โดยจำนวนผู้เสียชีวิตส่วนเกินในสหรัฐฯ ไม่เคยมากเท่านี้มาก่อน
เจค็อบ บอร์ รองศาสตราจารย์ด้านสุขภาพและระบาดวิทยาระดับโลกประจำคณะฯ ผู้เขียนชื่อหลักของการศึกษาดังกล่าว ระบุว่าจำนวน “ชาวอเมริกันที่หายไป” ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในยุคสมัยปัจจุบัน
บอร์ระบุว่าเกือบร้อยละ 50 ของ “ชาวอเมริกันที่หายไป” เสียชีวิตก่อนอายุ 65 ปีในปี 2020 และปี 2021 โดยระดับการเสียชีวิตส่วนเกินในกลุ่มผู้ใหญ่วัยทำงานนั้นค่อนข้างตายตัว
(แฟ้มภาพซินหัว : บุคลากรทางการแพทย์เฝ้าดูผู้ป่วยในพื้นที่โรคโควิด-19 ที่โรงพยาบาลในเมืองมอนเตเบลโล รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ วันที่ 22 ม.ค. 2021)