"ส.ว.พีระศักดิ์"แจงโหวตเห็นชอบ "พิธา" นั่งนายกฯใช้ดุลยพินิจตามหลักการ ไม่มีใครแทรกแซง
เมื่อวันที่ 13 ก.ค.66 ที่รัฐสภา นายพีระศักดิ์ พอจิต สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังโหวตเห็นชอบให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ตนโหวตเห็นชอบโดยใช้ดุลยพินิจที่ไม่มีใครมาแทรกแซง คิดถึงหลักการและศรัทธาที่ประชาชนมีต่อระบบให้ความสำคัญกับนายพิธา ผ่านการเลือกตั้งมาหลายครั้งค่อนข้างเคารพเสียงประชาชน และฟังเสียงประชาชนมาหลายระดับ อยากให้ประเทศไทยเราเดินไปตามระบบไว้ก่อน
เมื่อถามว่าบางส่วนกังวลใจในการแก้ไขมาตรา 112 และมีข้อกล่าวหาว่าแบ่งแยกดินแดน มีความกังวลใจในเรื่องนี้หรือไม่ นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า เป็นขั้นตอนของการโหวตนายกฯ และคิดถึงความคาดหวังของประชานเป็นหลัก สำหรับการแก้ไขมาตรา 112 ก็เป็นขบวนการฝ่ายนิติบัญญัติที่ต้องเสนอเป็นกฎหมาย ที่พรรคร่วมรัฐบาลก็ประกาศตัวอยู่แล้วว่าไม่สนับสนุน 151 เสียง ที่แก้ไขไม่ได้ในสภาล่าง เมื่อมาถึงสภาสูงโอกาสก็แทบจะเป็นศูนย์
เมื่อถามต่อว่าแนวโน้มของนายพิธา จะไปถึงฝันหรือไม่ เพราะมีการงดออกเสียงโหวตกว่าร้อยคนแล้ว นายพีระศักดิ์กล่าวว่า ตนเคารพเสียงของสมาชิกท่านอื่น ซึ่งตนก็ไม่ให้ใครมาแทรกแซงตน และตนก็ไม่ชี้นำใคร เพราะว่าเราก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่
เมื่อถามอีกว่าจะมีการโหวตนายกฯครั้งที่ 2 หรือไม่ นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของประธานรัฐสภา ที่ท่านต้องหารือกับวิป 3 ฝ่าย ว่าจะควรจะทำอย่างไร ตนไม่ขอไปก้าวล่วงในเรื่องนี้
เมื่อถามด้วยว่า ตอนนี้ในโลกโซเชียลมีเดียมีการโพสต์ชื่นชม ส.ว. ที่โหวตให้ความเห็นชอบนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีมองว่ากระแสข่าวนี้เป็นอย่างไร นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า ก็เป็นแค่กระแส ขอชื่นชมว่าพรรคก้าวไกลทำให้คนสนใจในการเมือง ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ขอเตือนไว้ว่าให้บริหารอารมณ์ของประชาชนเพื่อความสงบสุขของประเทศ จะไปเอาความแพ้ชนะอย่างเดียวไม่ได้