เปิดตำนานรักมาราธอน 43 ปี !! กล้วย เชิญยิ้ม กับภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก

2023-07-13 11:05:02

เปิดตำนานรักมาราธอน 43 ปี !! กล้วย เชิญยิ้ม กับภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก

Advertisement

อยู่ในวงการตลกมามากกว่า 40 ปี สร้างเสียงหัวเราะ ส่งความสุขให้กับผู้ชมมากมาย แต่ใครจะรู้ว่า กล้วย เชิญยิ้ม ต้องฝ่าฟันอุปสรรคทั้งล้มลุกคุกคลานจนมีวันนี้

เมื่อได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 กล้วย เชิญยิ้ม ได้ควงภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก อี๊ด ธัญญพัทธ์ มาเปิดเรื่องราวในชีวิตพร้อมและเผยความรักแบบทุกซอกทุกมุมในใจ เพราะอุ่นใจที่ได้มานั่งคุยมานั่งเล่าที่นี่เป็นที่แรกแบบหมดเปลือก กับเจ้าของตำนานมุกงานวัด?!คนไทยคนแรก พร้อมเปิดผนึกจดหมายรัก ที่ใช้ขอภรรยาแต่งงาน แต่ตอนนั้นก็มีชาวบ้านบอกว่าพวกเขาไม่เหมาะสมกันและบททดสอบชีวิตคู่ ที่ "น้ากล้วย และ น้าอี๊ด” ต้องเผชิญหลังแต่งงาน เล่นลิเกเงินไม่พอใช้ เข้ากรุงเทพมาหางานทำ ในความยากลำบากนี้เคยมีความคิดว่าเราเลือกคู่ชีวิตผิดบ้างไหมนะ? พร้อมเปิดใจ น้าอี๊ด ยอมรับว่าทำใจไว้ตั้งแต่ตัดสินใจแต่งงานกับเขาแล้วเพราะ ตลกมักมาคู่กับความเจ้าชู้ ! แต่ขออย่างเดียวมีอะไรเล่าให้ฟังตรงๆ พ่อบ้านใจกล้าก็เลยต้องขอรับสารภาพ ฝั่งแม่บ้านมีวิธีจัดการอย่างไร และ น้ากล้วย ยังได้เล่าประสบการณ์เจ้าชู้เป็นเหตุพาสาวเข้าโรงแรม! แต่โดนช็อตฟีลใส่กางเกงกลับบ้านแทบไม่ทัน เคยติดเหล้าหนักเกือบตายเผยจุดเปลี่ยนที่ทำให้เลิกติดเหล้า!! ไม่ใกล้ตายก็ไม่รู้ตัว



น้ากล้วย เล่นแล้วเป็นมุกที่สร้างชื่อ ?



กล้วย เชิญยิ้ม : ที่งานวัดครับ เมื่อก่อนที่งานวัดจะมีมหรสพมากมาย ลิเก รำวง คนขายของผมเป็นมัคทายกอยู่ตรงกลาง แล้วเสียงมันก็สอดแทรกเข้ามาแบบว่าเวลาที่เราพูดเชิญชวนปิดทองลูกนิมิตแล้วจิตใจจะแจ่มใส แล้วร้านลูกชิ้นก็สอดแทรกเข้ามาลูกชิ้นปิ้งไม้ละ 10 บาท ผมก็ปิดทองลูกนิมิตลูกละ 10 บาทจ้า

นอกจากจะเป็นตำนานของตลกแล้ว น้ากล้วย ยังเป็นตำนานของความรักด้วยเพราะรักกันมานานมาก ?
อี๊ด ธัญญพัทธ์ : 43 ปีค่ะ



ตอนนั้นกว่าจะรักกันทีคือ สื่อสารทางจดหมายกันเยอะมาก ?
กล้วย เชิญยิ้ม : ในจดหมายบอกว่าพี่รักอี๊ดจึงอยากแต่งงาน กับ อี๊ดพี่มีความจริงใจเสมอ มีคนดูถูกพี่ว่าพี่เป็นแค่ลิเกมันจะมีปัญญาเลี้ยงดูเอ็งเหรอ 



ส่วนตรง อี๊ด ก็จะมีคนรอบข้างชาวบ้านหนึ่งชาวบ้านสองพูดว่าอย่าเลย ?
อี๊ด ธัญญพัทธ์ : ใช่ค่ะ



ชีวิตหลังแต่งงานเป็นอย่างไรบ้าง ?
กล้วย เชิญยิ้ม : วันหนึ่งถ้าเรามีลูกชีวิตเราจะยังไงต่อไป เล่นลิเกได้วันละ 20-30-50 บาท ถ้าวันไหนฝนตกเล่นไม่ได้ก็ต้องไปเก็บผักบุ้งข้างหนอง ก็ต้องไปเก็บผักริมรั้วกิน ชีวิตก็คือดิ้นกันสุดก็เลยตัดสินใจเลยชีวิตลิเกคือ เลิก

อี๊ด ธัญญพัทธ์ : พี่กล้วย ก็เลยชวนงั้นเราเข้ากรุงเทพฯไปหางานทำกันไหม

กล้วย เชิญยิ้ม : ทำหมวกก็ได้ละวัน 30



อี๊ด ธัญญพัทธ์ : ความที่เราเข้ามาแล้วก็ยังหารายได้ไม่ค่อยได้ ซื้อก๋วยเตี๋ยวราดหน้ามาชามหนึ่งเส้นหมี่ กินกับข้าวสองคนเพื่อให้อิ่มท้อง

ในความยากลำบากใดๆในตอนนั้น มีความรู้สึกบ้างไหมเอ่ยว่าเราตัดสินใจเลือกคู่ผิดหรือเปล่าถ้าเลือกคนอื่นอาจจะสบายกว่านี้ ?
อี๊ด ธัญญพัทธ์ : ….  

ทุกอย่างที่เคยทำผิดบอก น้าอี๊ด หมด ?
กล้วย เชิญยิ้ม : บอกครับ ผมเป็นคนอย่างนั้น



และเป็นการบอกที่มาสารภาพเองด้วยไม่ต้องรอให้เขามาจับได้?
อี๊ด ธัญญพัทธ์ : ใช่ค่ะ เราทำใจตั้งแต่ว่าเราแต่งงานกับเขาแล้ว แต่มันสำคัญอยู่ที่เขานี่แหละ !!! แล้วเราจะคุยกันว่ามีอะไรขอให้เล่าให้เราฟังเราไม่ชอบให้คนอื่นมาเล่าให้เราฟัง

กล้วย เชิญยิ้ม : คือ ก็มีบ้างผมก็ยอมรับในช่วงที่เราห่างเขาก็มีนอกลู่นอกทาง แต่ทุกครั้งที่ผมนอกลู่นอกทางผมก็มานั่งสารภาพ

ในมุมที่เขามาเล่าเรารู้สึกอย่างไร ?
อี๊ด ธัญญพัทธ์ : พอเขาเล่าเราก็ผู้หญิงนะคะ มันก็มีนิดนึง แต่ไม่ถึงกับขึ้นนะคะ แต่มันก็มีนิดนึงในใจเราว่ามีเราแล้วทำไมคิดไปที่อื่น



ตลกทุกคนที่เคยมานั่งตรงนี้อาการจะคล้ายๆกันลำบากๆมาแล้วพอเริ่มสบายเอาแล้วร้ายเริ่มออก แต่น้ากล้วย ก็มีถึงขั้นที่พาสาวไปที่โรงแรม

กล้วย เชิญยิ้ม : น้องเขาก็พูดส่งน้องเรียนหนังสืออีกแล้วลูกหนูอีกสองคนน้าจะรับผิดชอบชีวิตหนูไหม ผมก็นุงกางเกงกลับเลยไม่ได้ทำอะไรเขาเลยนะ เรื่องนี้เราก็เล่าให้เขาฟังบ้างไม่เล่าบ้างเพราะผมไม่ได้ไปเสียหาย (ยิ้ม)

แล้วในช่วงที่ติดเหล้าหนักมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง ?
อี๊ด ธัญญพัทธ์ : ก็คือมีบ่อยๆครั้งที่ว่าเวลาเมาขับรถไปเฉี่ยวโน้นเฉี่ยวนี่ไม่รู้เรื่อง เวลาเมาแล้วใจดีเพราะเคยอยู่โรงลิเกแล้วลำบากถอดสร้อยไปให้เขา ถอดนาฬิกาไปให้เขา ถุงเท้ายังให้เลย

จุดเปลี่ยนจริงๆที่ทำให้รู้สึกว่าเราเมาเกินไปแล้ว?
กล้วย เชิญยิ้ม : มันเหมือนคนใกล้จะตายเลยรู้เลยว่าคนใกล้จะตายมันเป็นอย่างนี้ เราก็คิดไปต่างๆนานา ถ้าเกิดเราเป็นอะไรไปลูกเราแย่แน่

อี๊ด ธัญญพัทธ์ : เราก็พาเขาไปโรงพยาบาลหมอเขาก็บอกว่าดีนะที่มาไว ถ้ามาช้าอาจจะไม่รอด