สุดรันทด! หนูน้อยวัย 5 ขวบประสบอุบัติเหตุขาหัก เบ้าสะโพกหลุดก่อนจะไม่ยอมลุกเดินร่วม 2 เดือน ทั้งแสดงอาการต่อต้านคนแปลกหน้าอยู่กับยายพิการหูหนวก ตาติดเหล้า หาเช้ากินค่ำพอประทังชีวิต ส่วนแม่ติดคุกคดียาเสพติด ด้านผู้นำชุมชนเร่งหาทางเยียวยาประสานทีมแพทย์ พยาบาลช่วยเหลือเร่งกายภาพก่อนพิการถาวร
ที่บ้านนากุดสิมพัฒนา นางดวงมาลา แสงกล้า ผอ.รพ.สต.บ้านจอมศรี นางดวงพร บุญธรรม ผอ.รพ.สต.บ้านนากระเดา และนายสยามศรี ภูดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ้านนากุดสิมพัฒนา ต.สายนาวัง อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ นำคณะผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่เข้าเยี่ยมและสำรวจความเป็นอยู่ของครอบครัวนางสุดารัตน์ พรมสาขา ณ สกลนคร อายุ 48 ปี ที่พิการหูหนวก ที่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 8 บ้านกุดสิมพัฒนา ต.สายนาวัง อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ที่ต้องแบกรับภาระเลี้ยงดูหลานชายวัย 5 ขวบ ดช.นพดล วิเศษศรี ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และต้องทุกข์ทรมานจากอาการเจ็บปวดร้องไห้เกือบตลอดเวลา หลังประสบอุปบัติเหตุล้มจนขาหักเบ้ากระดูกสะโพกหลุด ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 60
โดยนางศุภิฌาณ์ฐฏี สารผล ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลสายนาวัง ได้สอบถามข้อมูลเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ ขณะที่นายบำรุง คะโยธา ประธานคณะกรรมการจิตอาสาประชารัฐ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่คณะกรรมการได้นำเงินทุนมอบช่วยเหลือให้กับครอบครัวเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น และพร้อมที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะการรักษา ดช.นพดลฯ ที่ต้องเร่งดำเนินการก่อนที่จะเป็นคนพิการถาวร
นายบำรุง คะโยธา ประธานคณะกรรมการจิตอาสาประชารัฐ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการสอบถามทราบว่าพ่อและแม่ของเด็กได้แยกทางกัน ส่วนแม่คือนางดัชนี ศรีแพน ตอนนี้ต้องโทษอยู่ในเรือนจำคดียาเสพติด ส่วนเด็กก็มียายและตาเป็นผู้ดูแล โดยยายคือนางสุดารัตน์ พรมสาขา ณ สกลนคร พิการหูหนวก มีการสื่อสารกันค่อนข้างยากลำบาก และนายธันวา ภูดี ผู้เป็นตาติดสุรา เป็นครอบครัวยากจน ที่นา ไร่ สวน ขายไปหมดเหลือเพียงบ้านหลังเล็ก ๆ ที่อยู่อาศัย ออกหาเก็บของป่า ผัก ไปขายตามตลาด ตามหมู่บ้านพอได้เงินมาซื้อข้าวอาหารกินประทังชีวิต
“อาการป่วยของเด็กมาจากการหกล้มและถูกเพื่อนนักเรียนในศูนย์เด็กเล็กฯ เหยียบซ้ำจนขาหักโดยได้ส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ รพ.กาฬสินธุ์ เข้าเฝือกนานถึง 22 วัน แต่เมื่อถอดเฝือกออกแล้วยังเดินไม่ได้และเด็กเองก็ทุกข์ทรมานกับการเจ็บปวดมักจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังพบว่าจากเดิมเป็นเด็กสดใสร่าเริง ตอนนี้เริ่มกลัวคนแปลกหน้าเพราะเกรงว่าจะเข้ามาจับขา จับตัวให้เจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกายภาพบำบัด เป็นเวลาจะย่างเข้าสู่เดือนที่ 3 ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เหมือนเด็กปกติทั่วไป ขาเริ่มลีบ และเล็กลง ทางญาติที่อยู่ในชุมชนบ้านข้างเคียงทนเห็นสภาพไม่ไหวได้ยื่นหนังสือร้องขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานต่าง ๆ เพราะเกรงว่าเด็กจะพิการขณะที่ครอบครัวก็ยากจนอีกด้วย” นายบำรุงกล่าว
ด้านนายสยามศรี ภูดี กล่าวว่า สำหรับครอบครัวนี้ได้เก็บข้อมูลและส่งเรื่องเข้าไปยัง อ.นาคู เพื่อหาแนวทางช่วยเหลืออีกทางหนึ่งตามโครงการ “คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” สำหรับครอบครัวนี้มีความยากจนมาก หาเช้ากินค่ำรายได้มาจากการเก็บผัก เก็บฟืนและของป่ามาจำหน่าย ได้บ้างไม่ได้บ้าง ไม่มีที่ดินทำกินอีกทั้งความไม่สมประกอบของร่างกาย ยังเป็นปัญหาในการใช้ชีวิต และยิ่งหลานชายมาป่วยอีกยิ่งเพิ่มภาระการดูแลเข้ามาอีก เป็นครอบครัวที่ต้องการความช่วยเหลือโดยเฉพาะ ดช.นพดล ถ้ายังปล่อยไว้อย่างนี้เด็กคงจะพิการ ที่ผ่านมาได้ประสาน รพ.สต.บ้านจอมศรี รพ.สต.บ้านนากระเดา และ รพ.นาคู เข้ามาช่วยเหลือแต่ยังมีปัญหาหลายด้านทำให้การรักษาไม่ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ หากผู้มีจิตศรัทธา มีความประสงค์ช่วยเหลือครอบครัว ดช.นพดล สามารถโอนเข้าบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส.สาขา นาคู หมายลขบัญชี 020016317244 ชื่อบัญชี นางสุดารัตน์ พรมสาขา ณ สกลนคร หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่หมายเลขโทรศัพท์ 098-606-7754 โดยผู้นำชุมชนและเครือข่ายจิตอาสาประชารัฐ จะได้ร่วมกันเข้ามาดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของครอบครัวนี้ โดยเฉพาะอาการเจ็บป่วยของ ดช.นพดล ที่จะต้องได้รับการบำบัดรักษาโดยหมอเฉพาะทาง