"บิ๊กโจ๊ก" สรุปคดีฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวเยอรมัน "โอลาฟ" ตัวการหลัก

2023-07-12 10:07:20

"บิ๊กโจ๊ก" สรุปคดีฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวเยอรมัน "โอลาฟ"  ตัวการหลัก

Advertisement

"บิ๊กโจ๊ก" ประชุมสรุปคดีฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวเยอรมัน รวบแล้ว 2 เร่งล่าอีก 1     "โอลาฟ"  ตัวการหลักประสงต์ต่อทรัพย์  พยานหลักฐานมัดแน่น 

เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 11 ก.ค.66 ที่ผ่านมา  ที่ห้องประชุมชั้น 3 สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภาค 2 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รรท. ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ประชุมสรุปคดีฆ่าหั่นศพนายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค อายุ 62 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวเยอรมัน  โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชม.

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  กล่าวว่า  ต้องขอชื่นชมในการทำงานของตำรวจภูธรภาค 2 ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ทาง ตม.ชลบุรี โดยการสืบสวนใช้เวลาวันกว่าๆ ก็พบศพนายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค  ส่วนผู้ต้องหาที่ศาลอนุมัติหมายจับ 3 ราย จับกุมแล้ว 2 ราย คือ นางเพทร่า คริสเติล กรุนด์กริฟ   อายุ 54 ปี และ นายโอลาฟ ธรอสเทน บริงก์มันน์  อายุ 52 ปี แต่เหลืออีก 1 คน น่าจะได้ตัวในเร็วๆนี้ อีกบางส่วน คือ เจ้าของบ้านที่เช่า มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว ดังนั้นคดีนี้ ตำรวจได้ตัวผู้ต้องหารายสำคัญและ มีการจับกุมได้ทั้งหมดแล้ว ส่วนพยานหลักฐานตำรวจมีเพียงพอที่จะทำให้ศาลลงโทษ ทั้งดีเอ็นเอ ลายพิมพ์ลายนิ้วมือ ลายพิมพ์ฝ่ามือ ร่องรอยพยานหลักฐาน บ้านที่เกิดเหตุรวมทั้งก้นบุหรี่ ซึ่งขณะนี้หลักฐานค่อนข้างมีความสมบูรณ์  สำหรับนายโอลาฟ ยังไม่ให้การใดๆทั้งสิ้น แต่ถึงแม้จะให้การ หรือ ไม่ให้การ ก็ไม่หนักใจเพราะมีพยานหลักฐานเต็มไปหมด ทั้งดีเอ็นเอ ร่องรอยคราบเลือดต่างๆ แม้จะเป็นวิธีการเดิมๆในการหั่นศพ คือเอาศพไปแช่แข็งไว้ แล้วนำมาหั่นจะได้ไม่มีเลือด ซึ่งจริงๆแล้วการหั่นศพทุกครั้งยังไงก็มีเลือดกระเซ็น ยังไงก็ยังมีร่อยรอยหลักฐานหลงเหลืออยู่ รวมถึงเรื่องรถก็สามารถยึดพยานหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว เพราะฉะนั้นตำรวจมั่นใจ ยังไงก็ไม่รอด  ส่วนปมเหตุจูงใจ เป็นเรื่องของการประสงค์ต่อทรัพย์ โดยพฤติกรรมของ นายโอลาฟ จะทำตัวเป็นมาเฟีย และ ผู้มีอิทธิพล ให้กับคนต่างชาติ ที่มีสัญชาติเดียวกัน ใครจะมาทำธุรกิจในเมืองไทย ต้องมาจ่ายค่าคุ้มครอง เมื่อไม่จ่าย และ รู้ว่าใครมีทรัพย์ ก็จะใช้ นางเพทร่า เป็นคนหลอกมาแล้วฆ่า พฤติกรรมต่างชาติแบบนี้ จะถูกกวาดล้างให้หมดสิ้น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  กล่าวต่อว่า สิ่งที่ต้องทำต่อคือการไล่ความเชื่อมโยงว่ามีคนไทยเกี่ยวข้องหรือไม่ วันนี้ในตัวหัวหน้ากระบวนการหลักก็คือ กลุ่มแก๊ง  Outlaws ซึ่ง นายโอลาฟ เป็นตัวการหลัก เมื่อหลายปีที่แล้วก็กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด วันนี้ได้สั่งการร่วมกับ  ผบช.ภาค 2 ในการเอ็กซเรย์ทั้งหมด ใน พื้นที่หนองปรือ และ พัทยา ซึ่งกลุ่มขบวนการพวกนี้เป็นกลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่มาปักหลักอาศัยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ พัทยา ภูเก็ต และ เกาะสมุย อย่างเมืองพัทยา ก็พักในหนองปรือ แต่มาเที่ยวฝั่งพัทยาแล้วก็ทำตัวเป็นมาเฟียเป็นผู้มีอิทธิพล ชาวต่างชาติคนใดที่มาทำธุรกิจก็ต้องผ่านคนเหล่านี้ ต่อไปนี้จะไม่มีแล้ว  ฝากถึงประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสมาที่ตน ผบช.ภาค .2 หรือทาง รรท. ผบก.ภ.จ.ชลบุรี ถ้าพบก็จะถอดวีซ่า ผลักดันออกนอกประเทศ แล้วทำแบล็กลิสต์ ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะไม่ให้อยู่ประเทศไทยอีกแล้ว