กองวิทยาการนราธิวาส เตรียมหาจุดคนร้ายซุกระเบิดเผาห้างดัง ขณะที่พนักงานแผนกซูเปอร์ย้ายมาทำงานในแผนกดีพาร์ทเมนท์สโตว์แทน เตรียมเปิดชั่วคราว 1 มี.ค.นี้
เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธร จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน กองวิทยาการ ตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เดินทางมายังห้างซูเปอร์ 4 ดีพาร์ทเมนท์สโตว์ เป็นวันที่ 3 หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบค้นหาหลักฐานภายในตึกได้เนื่องจากระบบไฟฟ้าทั้งหมดในตัวตึกเกิดเหตุได้รับความเสียหายและมืดไม่สามารถทำงานได้ อีกทั้งตัวตึกเอง ซึ่งเป็นตึก 2 ชั้น รวม 4 ห้อง ถูกไฟเผาจนมีลักษณะยุบตัวที่บริเวณชั้น 2 เจ้าหน้าที่เกรงตึกอาจจะถล่มลงมาได้ จึงต้องรอให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาแก้ไขเนื่องจากหม้อแปลงขนาดใหญ่ที่ใช้ในตึกเกิดความเสียหายจนต้องเปลี่ยนใหม่และเดินสายไฟใหม่ทั้งอาคาร เพื่อเก็บหลักฐานวัตถุระเบิดที่คนร้ายนำมาใช้นั้นว่าเป็นแบบชนิดใด
ส่วนพนักงานแผนกซูเปอร์มาร์เก็ตที่ทำงานภายในตึกเกิดเหตุ จำนวนประมาณ 80 ราย ล่าสุดถูกย้ายมาทำงานในแผนกดีพาร์ทเมนท์สโตว์ แผนกเสื้อผ้าแทน เครื่องสำอาง รองเท้า เพื่อเป็นการแก้ปัญหาให้กับพนักงานได้ทำงานครบเดือนโดยที่ไม่ต้องหยุดงาน และแผนกดังกล่าวจะเปิดจำหน่ายอีกครั้งในวันที่ 1 มี.ค.นี้ เนื่องจากตึกในแผนกดังกล่าวเป็นอาคารชั้นเดียว รวม 7 ห้อง และไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
ส่วนการรักษาความปลอดภัยในรอบบริเวณซูเปอร์ 4 ดีพาร์ทเมนท์สโตว์ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนจำรูฐนรา เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน อ.เมือง และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันเมืองคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นย่านธุรกิจสำคัญมีร้านค้าและที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก
ด้านความคืบหน้าทางคดีนั้น แหล่งข่าวในพื้นที่แจ้งว่า กลุ่มคนร้ายที่ลอบนำวัตถุระเบิดชนิดใหม่แบบกระเป๋าสตางค์นำมาใช้เพื่อวินาศกรรมเผาร้านค้าย่านเศรษฐกิจสำคัญๆ เป็นกลุ่มวัยรุ่นๆใหม่ที่ถูกฝึกมาปฏิบัติการณ์โดยเฉพาะ และไม่มีหมายใดๆจากฝ่ายความมั่นคง โดยมีกลุ่มโจรรุ่นพี่อยู่เบื้องหลังคอยวางแผนและสั่งการให้กลุ่มนี้นำวัตถุระเบิดไปก่อเหตุตามเป้าหมายที่ถูกเลือกไว้และตระเวณดูต้นทางไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า ซึ่งล่าสุดได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปซ่อนตัวในพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอที่มีเขตรอยต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้เจ้าหน้าที่คาดว่ามีจำนวนไม่ต่ำกว่า 10 คน โดยแบ่งหน้าที่เป็นคนขับรถจักรยานยนต์ 1 คน และอีก 1 คน ทำหน้าที่แอบนำวัตถุระเบิดไปวางซุกไว้ในร้านค้าเป้าหมาย และยังมีคนที่ทำหน้าที่ดูต้นทางอีก 1 คน รวมจุดละไม่น้อยกว่า 3 คน รวม 3 จุด น่าจะใช้คนไม่น้อยกว่า 10 คน โดยเลือกสถานที่ที่ไม่มีหรือห่างจากกล้องวงจรปิด โดยนำมาวางไว้ก่อนที่ร้านจะปิดไม่นาน ซึ่งโดยปกติร้านค้ามักจะปิดร้านในช่วงเวลา ประมาณ 22.00 น.และเมื่อวางซุกไว้ในร้านค้าแล้ว คนร้ายได้มีการตั้งเวลาระเบิดไว้ที่หลัง 00.00 น.เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่เจ้าของร้านปิดร้านและพักผ่อนแล้ว โดยการกระทำในครั้งนี้ คนร้ายมุ่งเน้นเผาร้านค้ามากกว่ามุ่งหวังในชีวิต เนื่องจากเป็นวัตถุระเบิดชนิดเล็กที่ไม่มีสะเก็ดระเบิด