"ประเสริฐ" เผย "ก้าวไกล" หาเสียง ส.ว.เพียงพอโหวตนายกฯ ยัน พท.ไม่เห็นด้วยแก้ ม. 112
เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 66 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการ พท. กล่าวถึงกรณี 8 พรรคร่วมนัดหารือในวันพรุ่งนี้ (11 ก.ค.) ว่า จะเป็นการพูดคุยกันเพื่อเตรียมความพร้อมในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 ก.ค.นี้ นอกจากนี้อาจจะมีประเด็นที่เกี่ยวเนื่องของคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านบ้าง หลังจากนั้นนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้นัดหมายให้มีการประชุมวิป 3 ฝ่าย เวลา 11.00 น. เพื่อกำหนดแนวทางในการประชุมวันที่ 13 ก.ค.นี้ว่าการโหวตเลือกนายกฯจะต้องอาศัยข้อบังคับข้อใดบ้าง และก่อนโหวตควรจะมีการแสดงวิสัยทัศน์ก่อนหรือไม่ ย้ำว่าแนวทางการโหวตของ 8 พรรคร่วมฯ มีความชัดเจน เป็นเอกภาพ และเป็นไปตามเอ็มโอยูที่จะสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ
เมื่อถามถึง ความคืบหน้าเสียงของ ส.ว. ในการโหวตเลือกนายกฯ นายประเสริฐ กล่าวว่า เท่าที่สอบถามทางพรรคก้าวไกล ยืนยันว่าสามารถหาเสียง ส.ว.ได้เพียงพอ และเข้าใจพรรคก้าวไกลเป็นอย่างดีว่าคงไม่เปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากการโหวตครั้งนี้มีความสำคัญ แต่ก็ได้รับการยืนยันจากแกนนำพรรคก้าวไกลเสมอว่าได้รับเสียงที่เพียงพอ ฉะนั้นก็เป็นไปตามนี้ก่อน
เมื่อถามต่อว่า จำเป็นต้องมีการถามพรรคก้าวไกลหรือไม่ เพราะหาก พท.สามารถคุยกับส.ว.คนใดได้จะได้ช่วยคุย นายประเสริฐ กล่าวว่า มีการสอบถามกันอยู่บ้าง แต่หลักๆ จะอยู่ที่พรรคก้าวไกล เนื่องจากพรรคก้าวไกล อาจจะยังไม่อยากเปิดเผยอะไรมากนัก เพราะอาจส่งผลกระทบต่อคะแนนโหวต และเราเข้าใจดีว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงถามเท่าที่ทำได้
เมื่อถามว่า ต้องมีการพูดคุยกันหรือไม่ว่า หากโหวตครั้งแรกไม่ผ่าน พรรคร่วมรัฐบาลเดิมอาจจะเสนอชื่อคนแข่ง นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนคิดว่าวันพรุ่งนี้อาจจะมีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้อยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะได้รายละเอียดมากน้อยแค่ไหน ฉะนั้นหากจะไปถามบ่อยๆ ก็จะดูอย่างไรอยู่ จึงต้องให้เกียรติเขาในฐานะที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเป็นพรรคหลักที่ไปประสานงานกับ ส.ว.
เมื่อถามถึงกระแสที่ออกมาค่อนข้างมองว่าพรรคก้าวไกล จะโหวตไม่ผ่านในรอบแรก พท. มองว่าจะโหวตอีกกี่ครั้ง นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้นายวันมูหัมมัดนอร์ จะต้องนำเรื่องนี้มาหารือกับแกนนำจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรค ว่าหากโหวตครั้งแรกไม่ผ่านจะมีแนวทางอย่างไรในครั้งต่อไปจึงยังไม่อยากสรุปไปก่อนว่าจะออกมาทิศทางใด
เมื่อถามต่อว่า หากนายพิธาไม่ได้เสียงในครั้งแรก พท. มองแผนสำรองไว้อย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า ยังไม่มองไปไกล และไม่มีแผนสำรอง เพราะวันนี้เราจะต้องให้เกียรติพรรคก้าวไกลก่อน พรรค พท.จึงยังไม่สมควรที่จะมาพูดเรื่องนี้ ให้ดูกันวันที่ 13 ก.ค.ก่อนค่อยมาพูดคุยกันอีกครั้ง เมื่อถามถึง ประเด็นและเงื่อนไขหลักที่ส.ว.จะไม่ยกมือให้นายพิธาคือเรื่องการแก้ไขม.112 จุดยืนของพรรค พท. เป็นอย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า วันที่ พท. และพรรคก้าวไกล แถลงข่าวในวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา เราได้พูดคุยเรื่องข้อตกลงเอ็มโอยูกันแล้วว่า พท.ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 และขอสงวนความเห็นหากจะหยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณา ดังนั้นจุดยืนของ พท.มีความชัดเจนอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า มีส.ว.ออกมาเตือนว่าหาก 8 พรรคร่วมฯ หากโหวตบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติจะเข้าข่ายผิดกฎหมายได้ พรรค พท.มีความกังวลหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นดุลยพินิจของส.ว.แต่ละคน ซึ่งตนมองว่าเป็นเพียงการส่งสัญญาณออกมา และท้ายที่สุดแล้วเชื่อว่าไม่ว่าส.ส.หรือส.ว.ทุกคนมีวุฒิภาวะและดุลยพินิจที่จะตัดสินใจเองได้ เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าอาจจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นในวันโหวตนายกฯ หากครั้งแรกไม่ผ่านเพราะจะมีมวลชนมาให้กำลังใจด้วย นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่กังวล ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย สามารถชี้แจงกับทุกฝ่ายได้ถึงที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ตนคิดว่าสภาจะสามารถให้เหตุผลกับประชาชนได้ และคิดว่าประชาชนจะเข้าใจด้วยเช่นกัน
เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมประชุมส่งเรื่องหุ้นไอทีวีของนายพิธาให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 13 ก.ค. 8 พรรคร่วมจะนำเรื่องนี้มาพูดคุยหรือไม่ หากนายพิธาถูกศาลสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้อยู่ในหัวข้อการพูดคุยในวันพรุ่งนี้ แต่หากดูจากข่าวคำร้องที่กกต.จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงคำร้องที่นายพิธายื่นไปยัง กกต. ขอให้มีการไต่สวนข้อเท็จจริงก่อนส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ตนเชื่อว่าเรื่องนี้ กกต.จะให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกร้องคือนายพิธา และเชื่อว่าหากมีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมานายพิธาและพรรคก้าวไกล จะสามารถตอบคำถามและชี้แจงเรื่องนี้ได้ ตนจึงมั่นใจว่าไม่กระทบกับวันที่ 13 ก.ค.การโหวตเลือกนายกฯจะยังคงดำเนินต่อไปไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง