"รัดเกล้า" "ฟาดนักวิชาการ ยัน รทสช.ไม่เสนอชื่อ "พีระพันธุ์"เป็นนายกฯ

2023-07-10 10:54:52

"รัดเกล้า" "ฟาดนักวิชาการ ยัน รทสช.ไม่เสนอชื่อ "พีระพันธุ์"เป็นนายกฯ

Advertisement

"รัดเกล้า" "ฟาดนักวิชาการให้ข่าวบิดเบือน ยัน รทสช.ไม่เสนอชื่อ "พีระพันธุ์"เป็นนายกฯรัฐบาลเสียงข้างน้อย

เมื่อวันที่ 10 ก.ค.66 นางรัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)  โพสต์เฟซบุ๊กหลังนักวิชาการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองมุ่งสร้างความเข้าใจผิดว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะเสนอชื่อนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้า รทสช. เป็นนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลเสียข้างน้อย ว่า   กระแสข่าวเกี่ยวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยหลายคนยังขาดความเข้าใจว่าตัวตนของรวมไทยสร้างชาติแท้จริงคือใคร เพราะถ้าคุณเข้าใจคุณจะไม่สงสัยมพรรครวมไทยสร้างชาติสร้างขึ้นมาบนความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติตาม 3 อุดมการณ์ คือ สร้างสังคมที่เท่าเทียม คืนความเป็นธรรม และที่สำคัญ สร้างความมั่นคงให้ประเทศ หากคุณรู้ เข้าใจ และจำได้แม่น (และไม่แกล้งลืม) คุณจะไม่สงสัยไม่หลงประเด็น และไม่เสียเวลา กับการกังขาในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ท่านพีระพันธุ์ หัวหน้าพรรคของเราคือสุภาพบุรุษที่เป็น role model ของอุดมการณ์ของพรรคที่จะทำงานเพื่อประเทศ การสละบทบาท ส.ส. ของท่าน แสดงให้เห็นว่าการเดินหน้าต่อสู้เพื่อทำงานนั้นมีความสำคัญกว่าการรับตำแหน่งใดๆ นอกจากนั้น ยังเป็นการคงสัจจะที่พวกเราชาว รทสช. ได้ลั่นวาจาไว้ว่าอย่าให้ลุงตู่สู้คนเดียว ซึ่งวันนั้นเราพูดไว้อย่างไร วันนี้เรายังคงทำอย่างนั้น เรามั่นคงในคำพูดของเรา (ไม่เปลี่ยนคำพูดไปมา ไม่กลืนน้ำลายตัวเอง) ไม่ต้องกังขา

การเสนอชื่อท่านวิทยาเป็นรองประธานสภาฯ คือการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงจุดยืนที่เราจะเป็นตัวแทนของประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตยทุกความเห็นของประชาชนมีความหมาย (ไม่ใช่ เสียงส่วนใหญ่ถูกเสมอ มีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้ เสียงส่วนน้อยถอยไป เหมือนที่หลายคนเข้าใจผิดๆ อยู่ทุกวันนี้) ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อย (อย่างต่ำก็ 4.7 ล้านคน) ที่ไม่ต้องการเห็นการแก้  เลิก มาตรา 112 ไม่ต้องการเปลี่ยนวันชาติ ไม่อยากเปลี่ยน เรื่องที่ไม่เป็นสาระ แต่อยากเห็นประเทศเจริญก้าวหน้า มีรัฐบาลที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็น ใส่ใจปากท้องจริง ไม่ได้มีดีแต่พูด ซึ่ง รทสช. ได้อาสาเป็นตัวแทนของประชาชนกลุ่มนี้มาโดยตลอด และจะเป็นตลอดไป ถ้าคุณเข้าใจก็จะไม่ต้องสงสัย อีกประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ การที่มีนักวิชาการบางคนมาสร้างข่าวลือว่า รทสช. จะชิงตำแหน่งนายก จะจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งก็เป็นการปั้นน้ำเป็นตัว รทสช. เป็นนักสู้ แต่จะไม่มีวันสู้แบบที่ประเทศจะเสียหาย ไม่ต้องหลงประเด็น สิ่งที่น่าสงสัยเป็นที่สุดคือเขามีเหตุผลอะไร มีแรงจูงใจอะไร ที่ตั้งใจทำให้ประชาชนให้สับสน เข้าใจผิดกันนะ

ตามหลักรากศัพท์มาจากภาษาบาลีและสันสกฤต การใส่  "อ" ข้างหน้าคำศัพย์เพื่อสร้างคำที่ตรงกันข้าม เช่น อวิชชา หมายถึง ความไม่รู้แจ้ง ไม่รู้ความเป็นจริงของสิ่งต่างๆ โดยถูกต้อง  อคติ หมายถึง ความลำเอียง (เช่น เรียกคนหนึ่งว่า "คุณ" แต่เรียกอีกคนว่า "ลูกเลี้ยง") ทีมโฆษก รทสช เราขอแถมคำใหม่ให้ด้วย นั้นคือคำว่า อวิชาการ หมายถึงผู้ที่มิคู่ควรแก่การได้รับเกียรติเป็น  "นักวิชาการ" เพราะนำเสนอแต่เนื้อหาที่ อวิชา และ เต็มไปด้วยอคติ เนื้อหาที่นักอวิชาการนำเสนอเป็นพิษต่อสังคมเพราะสร้างความไขว้เขว สับสน และหลงผิด คนเหล่านี้ควรหยุดได้แล้ว  หยุดพูด  หยุดเขียน หยุดออกสื่อ  วิงวอน ขอเถอะ ถ้ายังขาดความเข้าใจว่า ตัวตนของรวมไทยสร้างชาติ แท้จริงคือใคร อย่าวิเคราะห์มั่วๆ อย่าพยายามทำให้คนอื่นเข้าใจเราผิด ให้ประเทศไทยเดินหน้าเถอะ อย่าชวนกันก้าวหน้าหนึ่งเสตป  ก้าวหลังสองเสตป เต้นลีลาศอยู่กับที่ เสียเวลา ไม่มีสาระ สงสารประเทศไทย